ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (12 มิ.ย.) หลังจากต้นทุนการกู้ยืมจากการประมูลพันธบัตรของรัฐบาลเยอรมนีและอิตาลีปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งทำให้นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับการลุกลามของวิกฤตหนี้ยุโรป
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปรับตัวลง 77.42 จุด หรือ 0.62% ปิดที่ 12,496.38 จุด ดัชนี S&P 500 ลดลง 9.30 จุด หรือ 0.70% ปิดที่ 1,314.88 จุด และดัชนี Nasdaq ปรับตัวลง 24.46 จุด หรือ 0.86% ปิดที่ 2,818.61 จุด
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า การพุ่งขึ้นของต้นทุนการกู้ยืมของอิตาลีและเยอรมนีได้ทำให้นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับการลุกลามของวิกฤตหนี้ยุโรป โดยเยอรมนีขายพันธบัตรอายุ 10 ปีได้ 4.04 พันล้านยูโร หรือ 5.08 พันล้านดอลลาร์สหรัฐเมื่อวานนี้ โดยมีอัตราผลตอบแทนเฉลี่ยอยู่ที่ 1.52% เพิ่มขึ้นจากการประมูลเมื่อวันที่ 16 พ.ค.ที่ระดับ 1.47% ขณะที่อิตาลีสามารถขายพันธบัตรได้ 6.5 พันล้านยูโร มีอัตราผลตอบแทน 3.972% เพิ่มขึ้นจากการประมูลครั้งก่อนที่ระดับ 2.34%
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ยอดค้าปลีกของสหรัฐปรับตัวลดลง 0.2% ในเดือนพ.ค. สู่ระดับ 4.046 แสนล้านดอลลาร์ และปรับตัวลงเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกัน ซึ่งนับเป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 2 ปีที่ยอดค้าปลีกหดตัวติดต่อกัน
ขณะเดียวกันสต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจของสหรัฐเพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือนเม.ย. สู่ระดับ 1.575 ล้านล้านดอลลาร์ หลังจากที่ปรับขึ้น 0.3% ในเดือนมี.ค. เนื่องจากบริษัทต่างๆมีสินค้าในสต็อกและคลังสินค้าเพิ่มมากขึ้น ท่ามกลางยอดขายที่ซบเซา
นอกจากนั้นกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ของสหรัฐ ปรับตัวลดลง 1.0% ในเดือนพ.ค.เมื่อเทียบกับเดือนก่อน ซึ่งร่วงลงหนักสุดในรอบเกือบ 3 ปี โดยสาเหตุหลักเป็นเพราะราคาพลังงานที่ลดลงถึง 4.3% หรือมากที่สุดในรอบกว่า 3 ปี ขณะที่ราคาอาหารก็ลดลงเช่นกัน
หุ้นเจพีมอร์แกน เชส พุ่งขึ้น 1.57% หลังจากนายเจมี ไดมอน ซีอีโอของเจพีมอร์แกนได้ออกแถลงการณ์ปกป้องการขาดทุนของบริษัท
หุ้นโฮม ดีโปท์ ร่วงลง 2.4% หุ้นแคทเตอร์พิลลาร์ร่วงลง 2% หุ้นเดลล์ อิงค์ พุ่งขึ้น 2.6%
นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจในคืนนี้ตามเวลาไทย กระทรวงพาณิชย์จะเปิดเผยข้อมูลดุลบัญชีเดินสะพัดไตรมาส 1/2555 กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนพ.ค. และกระทรวงแรงงานสหรัฐจะรายงานจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์