ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (14 มิ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับการลุกลามของวิกฤตหนี้ยุโรป หลังจากมูดีส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิส ประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือของสเปนลง 3 ขั้น และธนคารกลางสวิตเซอร์แลนด์ระบุว่า เครดิต สวิส กรุ๊ป อาจจำเป็นต้องเพิ่มทุนในปีนี้
ดัชนี Stoxx Europe 600 ร่วงลง 0.3% ปิดที่ 241.84 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 3032.45 จุด บวก 2.41 จุด ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 6138.61 จุด ลบ 13.88 จุด ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 5467.05 จุด ลบ 16.76 จุด
ตลาดหุ้นยุโรปร่วงลงหลังจากมูดีส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิส ประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือของสเปนลง 3 ขั้น สู่ระดับ Baa3 จากเดิมที่ A3 พร้อมให้แนวโน้มอันดับเครดิตเชิงลบ โดยระบุว่า การที่ผู้นำยูโรโซนประกาศให้เงินกู้ 1 แสนล้านยูโรแก่สเปนเพื่อนำไปใช้ในการพยุงภาคธนาคารที่กำลังประสบปัญหานั้น จะยิ่งทำให้ภาระหนี้สินของรัฐบาลสเปนสูงขึ้น การปรับลดเครดิตดังกล่าวส่งผลให้ต้นทุนการกู้ยืมของสเปนพุ่งขึ้นทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่เหนือระดับ 7% ณ ช่วงเวลาหนึ่งในตลาดพันธบัตรยุโรป โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีของสเปนปรับตัวขึ้นสู่ระดับดังกล่าวเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ที่เริ่มมีการใช้สกุลเงินยูโรเมื่อปี 2542 ซึ่งยิ่งทำให้เศรษฐกิจยุโรปเผชิญกับความไม่แน่นอนมากขึ้น ก่อนที่กรีซจะจัดการเลือกตั้งสมาชิกรัฐสภาในวันอาทิตย์ที่ 17 มิ.ย.นี้
ขณะเดียวกันในการประมูลพันธบัตรรัฐบาลอายุ 3 ปีของอิตาลีเมื่อช่วงเย็นวานนี้ตามเวลาไทย อัตราผลตอบแทนเฉลี่ยของพันธบัตรดังกล่าวอยู่ที่ 5.3% ซึ่งเพิ่มขึ้นจากระดับ 3.91% ในการประมูลเดือนพ.ค.
หุ้นเครดิต สวิสร่วงลง 10% หลังจากธนาคารกลางสวิตเซอร์แลนด์ระบุในรายงานเสถียรภาพการเงินประจำปีว่า เครดิต สวิสต้องเพิ่มฐานเงินกองทุนเพื่อเตรียมพร้อมรับมือ หากสถานการณ์วิกฤตหนี้ยุโรปย่ำแย่ลงยิ่งกว่านี้ นอกจากนี้ ธนาคารกลางยังได้แนะนำยูบีเอส เอจี ให้เพิ่มปริมาณของเงินกองทุนด้วยเช่นกัน
หุ้นบีทีร่วงลง 3.5% หุ้นบีสกายบีร่วงลง 3.5% หุ้นบีเอ็มดับเบิลยู ร่วงลง 2.6% หุ้นเดมเลอร์ เอจี ดิ่งลง 2%
หุ้นโนเกียดิ่งลง 18% หลังบริษัทผู้ผลิตโทรศัพท์มือถือของฟินแลนด์รายนี้คาดการณ์ว่าผลกำไรจากการดำเนินงานในไตรมาสสองจะลดลงอีก พร้อมประกาศปิดโรงงานและเลิกจ้างพนักงานถึง 10,000 คน