สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์ และตลาดหลักทรัพย์ เปิดเผยว่า บมจ. เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส ได้ยื่น Filing version แรก ในวันที่ 15 มิถุนายน 2555 เนื่องจากบริษัทฯต้องการจะเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 75 ล้านหุ้น โดยแบ่งเป็นหุ้นเพิ่มทุนไม่เกิน 45 ล้านหุ้น เสนอขายต่อผู้ถือหุ้นเดิมของบมจ.เจมาร์ท(JMART) และอีก 30 ล้านหุ้น เสนอขายต่อประชาชนทั่วไป โดยมีบล.เอเชีย พลัส เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน
วัตถุประสงค์การใช้เงิน เพื่อซื้อหนี้ด้อยคุณภาพมาบริหาร ปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน รวมถึงใช้ชำระคืนเงินกู้ยืม
บมจ. เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส ก่อตั้งโดยกลุ่มบมจ.เจ มาร์ท(JMART)เพื่อดำเนินธุรกิจให้บริการติดตามเร่งรัดหนี้ ฟ้องสืบทรัพย์ และบังคับคดีทั่วประเทศไทย ณ วันที่ 31 มีนาคม 2555 มีบริษัทย่อย 1 แห่ง คือ บริษัท เจ เอ็ม ที พลัส จำกัด ซึ่งบริษัทถือหุ้นทั้งหมด เพื่อดำเนินธุรกิจให้บริการสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์
ปัจจุบันบริษัทและบริษัทย่อย ประกอบธุรกิจหลัก 3 ธุรกิจ ประกอบด้วย ธุรกิจให้บริการติดตามเร่งรัดหนี้, ธุรกิจบริหารหนี้ด้อยคุณภาพ และธุรกิจให้บริการสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์
ผลการดำเนินงานของบริษัทฯงวดไตรมาส 1/55 มีรายได้จากการดำเนินงาน 84.56 ล้านบาท กำไรสุทธิ 20.51 ล้านบาท และมีสินทรัพย์รวม 762.23 ล้านบาท หนี้สินรวม 556.10 ล้านบาท ส่วนของผู้ถือหุ้น 206.13 ล้านบาท
ณ วันที่ 14 พฤษภาคม 2555 บริษัทฯมีทุนจดทะเบียน 300 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญ 300 ล้านหุ้น และมีทุนเรียกชำระแล้ว 225 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญ 225 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท หลังกระจายหุ้นในครั้งนี้บริษัทฯจะมีทุนเรียกชำระแล้ว 300 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญ 300 ล้านหุ้น
ผู้ถือหุ้นรายใหญ่สุดของบริษัทฯ ณ วันที่ 14 พฤษภาคม 2555 คือ บมจ.เจมาร์ท ถือหุ้น 224,999,800 หุ้นหรือคิดเป็น 100% ภายหลังจากการเสนอขายหุ้นในครั้งนี้จะถูกลดสัดส่วนการถือหุ้นลงเหลือ 75%
ทั้งนี้ บริษัทฯ และบริษัทย่อย มีนโยบายการจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตราไม่น้อยกว่าร้อยละ 50 ของกำไรสุทธิหลังหักภาษีเงินได้นิติบุคคล และหลังหักสำรองตามที่กฎหมายกำหนด