นายพิทักษ์ รัชกิจประการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.พีทีจี เอ็นเนอยี เปิดเผยว่า บริษัทอยู่ระหว่างการเตรียมความพร้อมเพื่อเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยขณะนี้ได้แต่งตั้งบริษัท เซจ แคปปิตอล จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงินในการยื่นขออนุญาตเพื่อออกและเสนอขายหลักทรัพย์ต่อประชาชนและการยื่นขอเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์
บริษัทมีวัตถุประสงค์ในการระดมทุนเพื่อการขยายกิจการสถานีบริการน้ำมัน PT, การขยายกองรถขนส่งน้ำมันเพื่อรองรับการเติบโตของสถานีบริการน้ำมัน, เพื่อปรับภาพลักษณ์และพัฒนาคุณภาพสถานีบริการน้ำมัน PT และเพื่อมช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนรองรับการดำเนินธุรกิจที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง
ปัจจุบัน บริษัทมีการให้บริการสถานีน้ำมัน 2 ประเภท คือ สถานีบริการน้ำมันประเภทสถานีบริการที่บริหารและดำเนินงานโดยบริษัท(COCO) และสถานีบริการน้ำมันที่เป็นของผู้ประกอบการที่ได้รับสิทธิ์จากบริษัท (DODO) โดย ณ วันที่ 31 ธ.ค. 54 บริษัทมีสถานีบริการน้ำมันทั้งสิ้น 440 สถานี และตั้งเป้าหมายจะเพิ่มสถานีบริการน้ำมันภายในสิ้นปีนี้ไม่น้อยกว่า 100 สถานี โดยเน้นสถานีบริการน้ำมันประเภท COCO เป็นหลัก
นอกจากนั้น บริษัทและบริษัทย่อยยังมีการจำหน่ายน้ำมันให้กับผู้ประกอบการสถานีบริการน้ำมันอื่นที่ไม่ได้ใช้เครื่องหมายการค้า PT และกลุ่มผู้ค้าปลีกและค้าส่งน้ำมันรายอื่น หรือที่เรียกว่าผู้ค้าน้ำมันประเภท Jobber ซึ่งดำเนินธุรกิจในลักษณะพ่อค้าคนกลาง รวมถึงการจำหน่ายน้ำมันโดยตรงให้แก่กลุ่มผู้ประกอบการอุตสาหกรรมที่ต้องใช้น้ำมันเชื้อเพลิงในการดำเนินธุรกิจ โดยปี 54 บริษัทมีสัดส่วนการจำหน่ายน้ำมันดีเซล 75% น้ำมันเบนชิน 20% และแก๊สโซฮอลล์ 5% แต่ในวันที่ 1 ต.ค.เบนซิน 91 จะถูกยกเลิกการขายซึ่งบริษัทจะต้องเตรียมความพร้อมก่อน 2 เดือนเพื่อเปลี่ยนเป็นแก๊สโซฮอล์ ปัจจุบันยังขายแค่น้ำมัน แต่ในอนาคตอาจพิจารณาขาย NGV
ทั้งนี้ บริษัทมีคลังน้ำมันทั้งสิ้น 6 แห่ง และมีจำนวนรถยนต์ขนส่งน้ำมันจำนวนกว่า 200 คัน
นายพิทักษ์ กล่าวว่าในปี 55 บริษัทตั้งเป้ารายได้โต 60-70% จาก 2.78 หมื่นล้านบาทในปีก่อน โดยผลประกอบการในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา บริษัทมีอัตราการเติบโตของรายได้เฉลี่ยประมาณ 70% ต่อปี โดยปี 52-54 มีรายได้จากการดำเนินงาน 9.7 พันล้านบาท, 1.57 หมื่นล้านบาท และ 2.78 หมื่นล้านบาท ตามลำดับ
ด้านนางศรัณยา กระแสเศียร รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เซจ แคปปิตอล จำกัด คาดว่า น่าจะสามารถยื่นยื่นไฟลิ่งต่อก.ล.ต.ได้ภายในไตรมาส 3/55 นี้ และมั่นใจว่าบมจ.พีทีจี เอ็นเนอยี จะเป็นอีกหนึ่งหลักทรัพย์ในธุรกิจพลังงานที่มีความน่าสนใจ
โดยคาดว่าจะเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนในครั้งนี้ 420 ล้านหุ้น ทำให้หลัง IPO จะมีทุนจดทะเบียนเพิ่มเป็น 1,670 ล้านหุ้น จากทุนจดทะเบียน 1,250 ล้านบาท (พาร์ 1 บาท)
ปัจจุบันยอดขายน้ำมันอยู่ที่ 1.5 แสนลิตร/เดือน/สถานีบริการ บริษัทมีมาร์เก็ตแชร์อยู่อันดับ 5 รองจาก PTT,BCP,SHELL,ESSO รายได้หลักมาจากการขายน้ำมันส่วนคลังสินค้าเพื่อจุดกระจายน้ำมันไปยังสถานีบริการน้ำมัน