นายเปรมกมลย์ ทินกร ณ อยุธยา กรรมการ บมจ. อสมท (MCOT) ในฐานะรักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ เปิดเผยถึง ผังรายการโทรทัศน์ของอสมท.ในช่วงครึ่งปีหลังซึ่งจะเริ่มใช้ในวันที่ 1 ก.ค. นี้ประกอบไปด้วย 20 รายการใหม่ ภายใต้สโลแกน "Edutainment and beyond" ตอบย้ำถึงแนวคิดสังคมอุดมปัญญาที่บริษัทยึดถือเป็นแนวทางตลอดการดำเนินธุรกิจ
สำหรับผังรายการในช่วงครึ่งปีหลัง ประกอบด้วย สาระบันเทิงคุณภาพจาก 4 มิติ การนำเสนอ ได้แก่ รายการข่าวโฉมใหม่ ที่เพิ่มความเข้มข้นด้วยเนื้อหา วิเคราะห์ อย่างเจาะลึก โดดเด่นด้วยเทคโนโลยีนำเสนอที่ทันสมัย ทีมข่าว Bird's Eye News ที่พร้อมเข้าถึงทุกเหตุการณ์ข่าวอย่างฉับไว และทีมผู้ประกาศมากประสบการณ์ รวมทั้งรายการข่าวใหม่"คลุกวงข่าว"
รายการประเภทวาไรตี้ เน้นความรู้แต่ดูสนุกยิ่งขึ้นกับรายการอาทิเช่น รายการคัมภีร์วิถีรวย, รายการว๊าว แหวนแหวน, รายการวันดีดีกับเจี๊ยบอ้อม, มาตามนัดรีเทิร์นเป็นต้น
รายการเกมโชว์ 90 นาทีเต็ม ทุกวันจันทร์-ศุกร์ จาก 5 ผู้จัดใหญ่ของวงการ ได้แก่ รายการวีไอพี โฉมใหม่ โดย โพลีพลัส เอ็นเตอร์เทนเม้นท์, รายการคาหนังคาเขา จากกันตนา กรุ๊ป, รายการ Woman Voice คนไหนหัวใจเลือก โดย ทีวีธันเดอร์, รายการดาวท้าดวล โดย เวิร์คพอยท์ เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ และรายการพราว โดย เจเอสแอลโกลบอล มีเดีย
รายการละครและรายการเรียลลิตี้ อาทิ หมวดโอภาสเดอะซีรีย์ปี 2, ละครเรื่องสาวน้อย, ละครเรื่องลูกพี่ลูกน้อง, วงษ์คำเหลาคฤหาสน์เพี้ยน
"รูปแบบผังรายการใหม่มีการนำเสนอที่หลากหลายและทีมผู้ผลิตรายการที่เปี่ยมคุณภาพ ซึ่งนอกจากจะนำความบันเทิงสู่ผู้ชมแล้วยังมีจำนวนนาทีโฆษณาสำหรับการหารายได้เพิ่มขึ้นจากรายการข่าวที่ MCOTผลิตเอง ซึ่งจะสร้างรากฐานทางธุรกิจให้เข้มแข็งขึ้น" นายเปรมกมลย์ กล่าว
ด้านนายเขมทัตต์ พลเดช รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ MCOT กล่าวว่า หลังได้มีการปรับผังรายการใหม่ในช่วงครึ่งปีหลัง น่าจะส่งผลให้รายได้รวมของบริษัทในช่วงครึ่งปีหลังสูงกว่าช่วงครึ่งปีแรก เนื่องจากผังใหม่มีความชัดเจนและหลากหลายมากขึ้น โดยสัดส่วนผังรายการใหม่แบ่งเป็นรายการข่าว 28.5% จากเดิมที่ 29-30%, Entertainment เพิ่มเป็น 31% จาก 30%, Edutainment 32% จาก 31% และรายการกีฬาเพิ่มเป็น 4% หลังบริษัทเตรียมถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตซอลชิงแชมป์โลกที่ประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพในช่วงปลายปี รวมทั้งฟุตบอลยูฟ่าแชมป์เปียนลีกฤดูกาลหน้า
"ผังใหม่ถือว่ามีความชัดเจนมากขึ้นมีรายการใหม่ๆเข้ามา ส่วนรายการเก่าก็มีการปรับเปลี่ยนรูปแบบรายการ อย่างรายการข่าวเราก็เติมจุดแข็งเข้าไป ทั้งการปรับ content วิธีการนำเสนอต่างๆ เป็นการผสมผสานระหว่างผู้ประกาศหน้าใหม่และหน้าเก่า มีเทคโนโลยีที่ทันสมัยเข้ามาเสริม...ถ้าไม่มีการปรับผังรายได้เราก็โต 5-8% อยู่แล้ว แต่การปรับครั้งนี้ก็เป็นไปตามพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป ปรับแล้วรายได้ก็ต้องโตขึ้น ส่วนเรื่องเรทติ้งเราไม่ค่อยอยากให้ดูจากตรงนั้นมากนัก อย่างให้พิจารณาเรื่องการเข้าถึงผู้ชมที่แท้จริงมากกว่า"นายเขมทัตต์ กล่าว
อย่างไรก็ตาม ปัจจัยที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิดคือเรื่องวิกฤตหนี้สินในยุโรป ซึ่งถ้าเหตุการณ์ไม่รุนแรงก็มั่นใจว่ารายได้ในช่วงครึ่งปีหลังจะทำได้ตามเป้าหมาย ทั้งนี้บริษัทยังมั่นใจว่ารายได้รวมปี 55 จะเติบโตตามเป้าหมายที่มากกว่า 10%จากปี 54 ที่มีรายได้ 5.3 พันล้านบาท
นายเขมทัตต์ กล่าว่า MCOT สนใจเข้าร่วมประมูลใบอนุญาตดิจิตอลทีวี โดยขณะนี้รอความชัดเจนเรื่องรายละเอียดต่างๆจากทางคณะกรรมการกกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และ กิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ซึ่งเบื้องต้นตั้งงบลงทุนไว้1 พันล้านบาท และล่าสุดบริษัทจะนำช่อง ASEAN TV กลับมาผลิตเอง จากเดิมที่ผลิตรายการร่วมกับบมจ.เนชั่น บรอดคาสติ้ง คอร์ปอเรชั่น(NBC) และจะมีการเปลี่ยนชื่อช่องเป็น MCOT international
"ASEAN TV ตอนนี้เราก็จะกลับมาทำเอง แต่ก็จะเปิดโอกาสให้พัธมิตรเข้ามาร่วมเช่นกัน ส่วนจะมีกลุ่มเนชั่นไหมก็ต้องขึ้นอยู่กับความเหมาะสมและรูปแบบรายการ เราเป็นกลางก็ทำงานได้กับทุกคนอยู่แล้ว"นายเขมทัตต์ กล่าว