ตลาดหุ้นนิวยอร์กปรับตัวลง หลังบอนด์ยีลด์สเปนพุ่งบดบังผลเลือกตั้งกรีซ

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday June 18, 2012 21:34 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ตลาดหุ้นนิวยอร์กปรับตัวลงหลังจากตลาดเปิดทำการได้ไม่นาน เนื่องจากนักลงทุนเริ่มกลับมาวิตกกังวลเกี่ยวกับการลุกลามของวิกฤตหนี้ หลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรของสเปนพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ซึ่งส่งผลให้ตลาดหุ้นนิวยอร์กอ่อนแรงลง แม้ว่าผลการเลือกตั้งของกรีซออกมาเป็นที่น่าพอใจก็ตาม

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปรับตัวลง 45.10 จุด หรือ 0.35% แตะที่ 12,722.07 จุด ดัชนี S&P 500 ลดลง 4.19 จุด หรือ 0.31% แตะที่ 1,338.63 จุด ดัชนี Nasdaq ลดลง 2.99 จุด หรือ 0.10% แตะที่ 2,869.71 จุด

ตลาดหุ้นนิวยอร์กอ่อนแรงลงหลังมีรายงานว่าต้นทุนการกู้ยืมของสเปนปรับตัวขึ้นสูงสุดถึงระดับ 7.139% ภายหลังจากธนาคารกลางสเปนเปิดเผยในวันนี้ว่า สัดส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ของภาคธนาคารสเปนอยู่ที่ระดับ 8.72% ในเดือนเม.ย. ซึ่งเป็นสถิติสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2537 รวมเป็นจำนวนเพิ่มขึ้นแตะ 1.5274 แสนล้านยูโร (1.93 แสนล้านดอลลาร์) และจากความกังวลที่ว่าวงเงิน 1 แสนล้านยูโรที่กลุ่มประเทศยูโรโซนประกาศว่าจะปล่อยกู้ให้แก่ภาคธนาคารของสเปนนั้น อาจจะยังไม่เพียงพอ

ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรของอิตาลีพุ่งขึ้น 0.106% แตะที่ 6.03%

กระแสความวิตกกังวลเกี่ยวกับสเปนได้บดบังปัจจัยบวกที่ว่ากรีซจะไม่ออกจากกลุ่มยูโรโซน หลังจากกระทรวงมหาดไทยของกรีซระบุว่า พรรคนิวเดโมเครซีมีคะแนนนำในการเลือกตั้งและมีแนวโน้มที่จะได้รับเสียงข้างมากในสภา

นักลงทุนจับตาดูผลการประชุมกลุ่ม G-20 ในช่วง 2 วันข้างหน้า ที่เมืองลอส คาบอส ประเทศเม็กซิโก โดยคาดว่า วิกฤตยูโรจะเป็นวาระสำคัญในการหารือระหว่างการประชุม รวมทั้งวิธีการรับมือกับสถานการณ์ภายหลังการเลือกตั้งทั่วไปของกรีซที่จะมีขึ้นในวันอาทิตย์ที่จะถึงนี้ รวมทั้งเรื่องสถานการณ์ภาคธนาคารของสเปน

หุ้นเฟซบุ๊ก ร่วงลง 1.7% ขณะที่หุ้นกลุ่มการเงินปรับตัวลดลง โดยหุ้นมอร์แกน สแตนลีย์ ร่วงลง 1.9% และหุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา ร่วงลง 1.1%

ส่วนหุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลงเช่นกัน โดยหุ้น Anadarko Petroleum ร่วงลง 1.8% และหุ้น Baker Hughes ร่วงลง 1.1%


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ