ภาวะตลาดหุ้นยุโรป: ตลาดหุ้นยุโรปปิดเกือบทรงตัว เหตุวิตกบอนด์ยีลสเปนพุ่ง

ตลาดหุ้นยุโรปปิดเกือบทรงตัวเมื่อคืนนี้ (18 มิ.ย.) ท่ามกลางการซื้อขายที่ผันผวน หลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีของรัฐบาลสเปนพุ่งขึ้นเหนือระดับ 7% ซึ่งทำให้เกิดความวิตกกังวลเกี่ยวกับวิกฤตหนี้สาธารณะของสเปน นอกจากนี้ ความคาดหวังที่ว่าชัยชนะของพรรคนิวเดโมเครซีจะช่วยคลี่คลายวิกฤตหนี้ยุโรปนั้น ได้เริ่มเจือจางลง

ดัชนี Stoxx Europe 600 ขยับขึ้นเพียง 0.1% ปิดที่ 244.36 จุด

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 3066.19 จุด ลบ 21.43 จุด ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 6248.20 จุด บวก 18.79 จุด ดัชนี FTSE 100 ตลาดห้นลอนดอนปิดที่ 5491.09 จุด บวก 12.28 จุด

ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นยุโรปเป็นไปอย่างผันผวนหลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีของรัฐบาลสเปนพุ่งขึ้น 0.41% แตะที่ 7.29% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่สเปนเริ่มใช้สกุลเงินยูโรในปี 2542 ซึ่งการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรของสเปนทำให้เกิดควมกังวลว่า สเปนจะประสบความยากลำบากในการระดมทุนในตลาดการเงิน และอาจจะทำให้สเปนกลายเป็นประเทศสมาชิกยูโรโซนรายที่ 4 ที่ต้องขอความช่วยเหลือจากภายนอก

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรของสเปนพุ่งขึ้นหลังจากธนาคารกลางสเปนเปิดเผยว่า สัดส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ของภาคธนาคารสเปนอยู่ที่ระดับ 8.72% ในเดือนเม.ย. ซึ่งเป็นสถิติสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2537 รวมเป็นจำนวนเพิ่มขึ้นแตะ 1.5274 แสนล้านยูโร (1.93 แสนล้านดอลลาร์)

กระแสความวิตกกังวลเกี่ยวกับสเปนได้บดบังปัจจัยบวกที่ว่ากรีซจะไม่ออกจากกลุ่มยูโรโซน หลังจากผลการนับคะแนนอย่างเป็นทางการของกระทรวงมหาดไทยกรีซเผยพรรคนิวเดโมเครซี (ND)ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งครั้งสำคัญที่จัดขึ้นเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา โดยพรรค ND ได้คะแนนไป 29.66% เหนือคู่แข่งที่ไม่เห็นด้วยกับมาตรการรัดเข็มขัดอย่างพรรค Syriza ที่ได้คะแนนไป 26.89%

นายแอนโทนิส ซามาราส หัวหน้าพรรค ND จะเริ่มหารือร่วมกับหัวหน้าพรรคอื่นๆเมื่อวานนี้ เพื่อจัดตั้งรัฐบาลผสม หลังจากที่พรรค ND ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้ง ซึ่งภายใต้รัฐธรรมนูญของกรีซนั้น นายซามาราสมีเวลาเพียง 3 วันเท่านั้นในการจัดตั้งคณะรัฐมนตรี

หุ้นเคเบิล แอนด์ ไวร์เลส เวิล์ดไวด์ พุ่งขึ้น 7.8% หลังจากผู้ถือหุ้นรายใหญ่สุดของเคเบิล แอนด์ ไวร์เลส ยอมรับข้อเสนอการเทคโอเวอร์จากโวดาโฟน

หุ้นเบอร์เบอรี่ ซึ่งเป็นผู้ผลิตสินค้าหรูหรารายใหญ่ของอังกฤษ พุ่งขึ้น 2.9% ขณะที่หุ้น PPR ซึ่งเป็นเจ้าของแบรนด์แฟชั่น Gucci ดีดตัวขึ้น 1.1%

หุ้นสวอช กรุ๊ป ผู้ผลิตนาฬิการายใหญ่โลก พุ่งขึ้น 2.3% แต่หุ้นคาร์ฟูร์ร่วงลง 3.2%

หุ้นเนชันแนล แบงก์ ออฟ กรีซ ซึ่งเป็นธนาคารรายใหญ่ของกรีซ พุ่งขึ้น 11% แต่หุ้นธนาคารบังเกียของสเปนดิ่งลง 9%