นายวรพจน์ อุชุไพบูลย์วงศ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ช.การช่าง (CK) กล่าวกับ"อินโฟเควสท์"ว่า บริษัทปรับคาดการณ์รายได้ในปี 55 เพิ่มเป็น 1.8 หมื่นล้านบาท จากเดิมคาดว่าจะได้ 1.5 หมื่นล้านบาท เนื่องจากกลางปีนี้บริษัทคาดว่าจะได้งานก่อสร้างทางด่วนศรีรัช-วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานครจากบมจ.ทางด่วนกรุงเทพ(BECL) รวมทั้งคาดว่าจะมีรายได้จากการนำบริษัท ซีเค พาวเวอร์ เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ในช่วงไตรมาส 4/55 ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นปีนี้เชื่อว่าทำได้ 10% สูงกว่าปีก่อนที่มี 7-8% ปัจจุบัน (ณ สิ้น มี.ค. 55) บริษัทมีมูลค่างานในมือ(backlog) จำนวน 109,783 ล้านบาท ซึ่งรวมโครงการไซยะบุรี 7.6 หมื่นล้านบาทที่คาดว่าปีนี้จะรับรู้รายได้เพียง 4-5 พันล้านบาท แต่ยังไม่รวมงานก่อสร้างทางด่วนให้กับ BECL มูลค่างาน 2.25 หมื่นล้านบาทที่จะมีระยะเวลาทยอยรับรู้รายได้ 3-4 ปี รวมทั้งการประมูลงานรถไฟฟ้าต่อเนื่องอีก ได้แก่ รถไฟฟ้าสายสีเขียว ข่วงหมอชิต-ลำลูกกาเป็นต้น ทั้งหมดนี้จะช่วยให้ backlog ปีนี้เติบโตต่อเนื่อง
ขณะที่บริษัทชะลอการออกหุ้นกู้จำนวน 2 พันล้านบาทที่เดิมคาดว่าจะเสนอขายในเดือน ก.ค.นี้ อาจจะเลื่อนไปออกในช่วงปลายปีนี้หรือต้นปีหน้าเพื่อระดมทุนไปใช้ในโครงการไซยะบุรีและโครงการอื่น แต่ขณะนี้ยังต้องรอดูสภาวะตลาดเงินเสียก่อน อย่างไรก็ดี บริษัทได้เตรียมเงินจำนวน 1.4 พันล้านบาทเพื่อรองรับการไถ่ถอนหุ้นกู้เดิมที่จะครบกำหนดอายุใน มิ.ย.55
นายวรพจน์ กล่าวว่า บริษัท ซีเค พาวเวอร์ จำกัด จะนำเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ได้ในไตรมาส 4/55 และชึ้นอยู่กับภาวะตลาดในช่วงนั้นด้วย ซึ่งในเดือน มิ.ย.นี้คาดว่าจะคัดเลือกบริษัทที่ปรึกษาทางการเงิน(FA) และอยู่ระหว่างจัดโครงสร้างบริษัทคาดแล้วเสร็จในไตรมาส 3/55
การขายหุ้น IPO ของซีเค พาวเวอร์จะเป็นการขายหุ้นเพิ่มทุนใหม่ และจากส่วนของผู้ถือหุ้นเดิม การระดมทุนครั้งนี้ เพื่อนำไปลงทุนในโรงไฟฟ้าบางปะอินโคเจนเนอเรชั้น ขนาด 120 เมกะวัตต์ ในสัดส่วน 65% ซึ่งจะซื้อหุ้นจาก CK สัดส่วน 45% และที่เหลือจากผู้ถือหุ้นรายอื่น
"เราเตรียมจะเข้าปลายปี แต่ก็ต้องดูสภาวะตลาดด้วย...หุ้นที่จะขายมาจากสองส่วน มีหุ้นใหม่สำหรับที่จะเอาไปลงทุน SPP บางปะอินโคเจนฯ อีกส่วนมาจากผู้ถือหุ้นเดิม ต้องคุยกันว่าจะ dilute กันเท่าไร"นายวรพจน์ กล่าว
อนึ่ง บริษัท ซีเค พาวเวอร์ จำกัด เป็นบริษัทร่วมในกลุ่ม CK โดยจัดเป็นบริษัทที่ลงทุนด้านพลังงาน ปัจจุบันมีทุนจดทะเบียน 9.2 พันล้านบาท CK ถือหุ้นอยู่ 38% BECL ถือ 30% บมจ.น้ำประปาไทย (TTW) ถือ 30% และ บริษัท ที่ดินบางปะอิน จำกัด ถือ 2%
ปัจจุบันรายได้หลักมาจากบริษัท เซาท์อีสท์ เอเชีย เอนเนอร์จี จำกัด (SEAN) ที่ ซีเค พาวเวอร์ เข้าถือหุ้นอยู่ 54.67% ซึ่งถือหุ้นในบริษัท โรงไฟฟ้าน้ำงึม 2 จำกัด (สัดส่วน 75%) ทำให้ปี 54 ซีเค พาวเวอร์ มีรายได้ 3.9 พันล้านบาท และกำไรจากส่วนผู้ถือหุ้นใหญ่ 943 ล้านบาท หลังจากโครงการน้ำงึม 2 เดินเครื่องเชิงพาณิชย์เมื่อ มี.ค. 54
ล่าสุด ซีเค พาวเวอร์ เข้าซื้อ บริษัท บางเขนชัย จำกัด 100% ซึ่งเป็นผู้ผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ขนาด 8 เมกะวัตต์ และ บริษัท นครราชสีมา โซล่าร์ จำกัด ในสัดส่วน 30% ผลิตไฟฟ้าแสงอาทิตย์ขนาด 6 เมกะวัตต์ นอกจากนี้เตรียมเข้าซื้อหุ้น บริษัท เชียงราย โซล่าร์ จำกัด มีกำลังการผลิต 6 เมกะวัตต์ ในช่วงปลายปีนี้