พล.อ.อ.สุเมธ โพธิ์มณี ประธานกรรมการ บมจ. ท่าอากาศยานไทย(AOT)หรือ ทอท.เปิดเผยว่า คณะกรรมการ ทอท.ให้ความเห็นชอบโครงการส่งเสริมและจูงใจสายการบินต้นทุนต่ำ(LCCs)และสายการบินที่ไม่มีการเชื่อมต่อ(Point to Point)ที่ย้ายจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิมาใช้บริการ ณ ท่าอากาศยานดอนเมือง
ทั้งนี้ มาตรการจะแบ่งเป็น 2 ระยะ คือ ระยะที่ 1 ตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค.-30 ก.ย.55 โดยมีมาตรการกระตุ้นการย้ายเที่ยวบินจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิมาใช้บริการที่ท่าอากาศยานดอนเมือง เนื่องมาจากผู้โดยสารเกินขีดความสามารถรองรับและการปิดปรับปรุงทางวิ่งของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยมีรายการค่าธรรมเนียมและค่าภาระฯ ณ ท่าอากาศยานดอนเมืองที่จะได้รับการยกเว้น ได้แก่ ค่าธรรมเนียมในการขึ้นลงของอากาศยาน 95% ค่าธรรมเนียมที่เก็บอากาศยาน 95% ค่าบริการใช้สะพานเทียบเครื่องบิน ค่าธรรมเนียมการใช้เคาน์เตอร์เช็คอิน ค่าเช่าพื้นที่และที่ดิน ค่าธรรมเนียมการใช้บริการในอาคาร และค่าประกาศเที่ยวบิน
ระยะที่ 2 ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.55-30 ก.ย.58 โดย ทอท.จะให้ส่วนลดค่าธรรมเนียมการขึ้นลงของอากาศยานและให้ส่วนลดค่าเช่าสำนักงาน ค่าเช่าพื้นที่
และค่าบริการเคาน์เตอร์เช็คอิน แบ่งเป็น 3 ช่วง คือ ช่วงที่ 1 ทอท.จะให้ส่วนลดร้อยละ 30 เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.55-30 ก.ย.56 ช่วงที่ 2 ทอท.จะให้ส่วนลด 20% เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.56-30 ก.ย.57 และ ช่วงที่ 3 ทอท.จะให้ส่วนลดร้อยละ 10 เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.57-30 ก.ย.58
"มติคณะกรรมการดังกล่าวเป็นโครงการส่งเสริมและจูงใจสายการบินมาใช้บริการท่าอากาศยานดอนเมืองเพื่อเป็นการบรรเทาความแออัดที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ รวมทั้งเป็นการใช้ประโยชน์ท่าอากาศยานดอนเมืองอย่างเต็มประสิทธิภาพ"พล.อ.อ.สุเมธ กล่าว
สำหรับศักยภาพของท่าอากาศยานดอนเมืองมีขีดความสามารถในการรองรับผู้โดยสารได้ 36.5 ล้านคนต่อปี และเพื่อสร้างความมั่นใจแก่ผู้ใช้บริการ สายการบินและผู้ประกอบการ ทอท.ได้เตรียมแผนปฏิบัติการย้ายปริมาณการจราจรทางอากาศบางส่วนจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิมาให้บริการที่ท่าอากาศยานดอนเมือง
ทอท.ได้ปรับปรุงพื้นที่และสิ่งอำนวยความสะดวกทางกายภาพที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ได้แก่ อาคารผู้โดยสาร อาคาร 1 บางส่วนเพิ่มจากที่ใช้งานปัจจุบันอยู่แล้ว รวมทั้งปรับปรุงอาคารเทียบเครื่องบินหมายเลข 4 Bus Gate และอาคารคลังสินค้า 1 รวมทั้ง ทอท.ได้บริหารจัดการกิจกรรมเชิงพาณิชย์ภายในอาคารและภายนอกอาคารผู้โดยสารให้เหมาะสม เพื่อให้ผู้โดยสารได้รับความสะดวกสบายจากบริการในทุกด้าน
ทั้งนี้ เป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 20 มิ.ย.55 ให้ความเห็นชอบบทบาทท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ(ทสภ.) เป็นท่าอากาศยานหลัก(Hub Airport) รองรับเที่ยวบินแบบเต็มรูปแบบ (Full Service) และเที่ยวบินที่มีการเชื่อมต่อ (Connecting Flight) เพื่อส่งเสริมให้เป็นศูนย์กลางการบินในภูมิภาค และท่าอากาศยานดอนเมือง (ทดม.) รองรับสายการบินต้นทุนต่ำ (Low Cost Carriers : LCCs) และ/หรือ เส้นทางการบินในประเทศและระหว่างประเทศแบบจุดต่อจุด (Point to Point) บนหลักการของความสมัครใจของสายการบิน เพื่อเป็นการใช้ท่าอากาศยานทั้ง 2 แห่งให้เกิดประโยชน์สูงสุด