กสทช.รวบรวมผลเปิดรับฟังความเห็นต่อประกาศครอบงำกิจการฯ เข้าบอร์ด กทค.

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday June 21, 2012 12:26 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

พ.อ.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ รองประธานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) และในฐานะประธานกรรมการกิจการโทรคมนาคม(กทค.) เปิดเผยว่า สำนักงาน กสทช.จะนำความคิดเห็นต่างๆที่ได้รับการจากการเวทีรับฟังความเห็นสาธารณะและการแสดงความเห็นผ่านเว็บไซด์เกี่ยวกับร่างประกาศคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ เรื่องการกำหนดข้อห้ามการกระทำที่มีลักษณะเป็นการครอบงำกิจการโดยคนต่างด้าว เสนอให้ที่ประชุม กทค.พิจารณา

"บอร์ดกทค.จะพิจารณา ซึ่งอาจมีการแก้ไขเพิ่มเติมร่างประกาศฯตามข้อมูล เหตุผล ที่ได้จากการรับฟังความคิดเห็น เพื่อให้เกิดความสมบูรณ์ยิ่งขึ้น จากนั้นก็จะส่งไปขอความเห็นชอบจากที่ประชุมกสทช. แล้วส่งไปประกาศในราชกิจจานุเบกษา เพื่อประกาศบังคับใช้ต่อไป"พ.อ.เศรษฐพงศ์ กล่าว

ในวันนี้ กสทช.ได้เปิดเวทีรับฟังความเห็นสาธารณะต่อร่างประกาศดังกล่าว หลังจากเมื่อวันที่ 18 มิ.ย.มีประชาชน นักศึกษา และผู้ประกอบการที่ได้รับใบอนุญาตได้แสดงความคิดเห็นต่อร่างประกาศดังกล่าว จำนวน 31 ราย ผ่านทางเว็บไซด์ของสำนักงาน กสทช.

อนึ่ง การออกประกาศ กสทช. เรื่องการกำหนดข้อห้ามการกระทำที่มีลักษณะเป็นการครอบงำกิจการโดยคนต่างด้าว พ.ศ.2554 ที่มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 31 ส.ค.54 นั้นได้รับการวิพากษ์วิจารณ์ในวงกว้าง ไม่ว่าจะในแง่มุมของข้อกฎหมาย นโยบาย หรือแม้แต่การนำไปบังคับใช้ในทางปฏิบัติ ดังนั้น กทค.จึงมีมติให้สำนักงาน กสทช.จัดประชุมรับฟังความคิดเห็นจากผู้ประกอบกิจการและผู้เกี่ยวข้องไปเมื่อปลายปี 54 เพื่อนำข้อมูล ตลอดจนข้อเสนอแนะต่างๆมาประมวลข้อดี ข้อเสีย และทำการปรับปรุงให้เหมาะสม

ด้านนายสุทธิพล ทวีชัยการ กรรมการ กสทช. ด้านกฎหมาย ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการบูรณาการและปรับปรุงกฎหมายและระเบียบด้านโทรคมนาคม กล่าวเพิ่มเติมว่า เนื้อแท้ของร่างประกาศฉบับนี้ไม่ได้ไปกำกับดูแลบริษัทต่างด้าว แต่มุ่งเน้นที่จะกำกับดูแลบริษัทไทยที่อยู่หรือจะอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ กสทช. ให้ไปกำหนดข้อห้ามการกระทำที่มีลักษณะเป็นการครอบงำโดยคนต่างด้าว และให้รายงานว่ามีกรณีฝ่าฝืนข้อห้ามที่ผู้ประกอบการเป็นผู้กำหนดไว้หรือไม่

การกำหนดข้อห้ามนั้นเป็นดุลพินิจของผู้ประกอบการเอง ในลักษณะเป็นการควบคุมตนเองและเป็นการให้ข้อมูลเพื่อให้เกิดบรรษัทภิบาลในกิจการของผู้ประกอบการ โดยจะต้องทำตามแนวทางที่ กสทช. กำหนด โดยในแต่ละปีผู้ประกอบการต้องรายงานพฤติการณ์และสถานภาพการครอบงำกิจการให้กสทช.พิจารณา เมื่อกสทช.พบว่าไม่ถูกต้องก็จะแจ้งให้แก้ไขให้เกิดความถูกต้อง หากไม่ปฏิบัติตามก็เป็นกรณีที่จะต้องดำเนินการตาม พ.ร.บ. การประกอบกิจการโทรคมนาคม พ.ศ.2544 ต่อไป

อีกทั้งร่างประกาศฯนี้จะช่วยดูแลไม่ให้ผู้ประกอบการที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของกสทช.ไปฝ่าฝืน พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าวฯ เพื่อเป็นการตัดไฟแต่ต้นลม เพราะหากมีการฝ่าฝืน พ.ร.บ. การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าวฯ ก็จะมีโทษทางอาญาที่รุนแรง

"การแก้ไขประกาศฯฉบับนี้ เป็นผลจากการวิเคราะห์ข้อดี ข้อเสีย ข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งประมวลความคิดเห็นและข้อเสนอแนะต่างๆ ทั้งจากผู้มีส่วนได้เสีย และจากภาคประชาชน อย่างตรงไปตรงมา ภายใต้กรอบการใช้ดุลพินิจที่เหมาะสม และที่สำคัญเมื่อมีการกำหนดกติกาตรงนี้ให้มีความชัดเจนแล้ว ก็จะทำให้ผู้ประกอบการที่สนใจจะเข้ามาประมูลคลื่น 3 จี ในช่วงเดือนตุลาคมนี้มีแนวทางปฏิบัติที่เกี่ยวกับการครอบงำกิจการโดยคนต่างด้าวที่ชัดเจนอีกด้วย ซึ่งผมเชื่อมั่นว่า ร่างประกาศนี้จะมีคุณค่าอย่างมาก เพราะจะทำให้เราได้ กฎ กติกา ที่เป็นธรรม และเป็นกฎ กติกา ที่ทุกฝ่ายยอมรับ อันจะส่งผลดีต่อประโยชน์สูงสุดของประเทศชาติและประชาชน" นายสุทธิพล กล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ