นายชูพงศ์ ธนเศรษฐกร กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวาณิชธนกิจ บล.คันทรี่ กรุ๊ป(CGS)ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน และผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย หุ้นสามัญเพิ่มทุน บมจ.เอื้อวิทยา(UWC) เปิดเผยถึง ผลการเปิดจองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้กับประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 99.496 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท ในราคาเสนอขาย 1.80 บาทต่อหุ้น ปรากฎว่านักลงทุนให้ความสนใจอย่างล้นหลาม โดยมียอดจองซื้อสูงกว่าจำนวนหุ้นที่จัดสรร
ทั้งนี้ ได้เปิดให้จองซื้อสำหรับผู้ถือหุ้นของ CEN (Pre-emptive Right) เมื่อวันที่ 11-14 มิถุนายนที่ผ่านมา และได้เสนอขายให้กับประชาชนทั่วไประหว่างวันที่ 18-20 มิถุนายนที่ผ่านมา โดยหุ้น UWC จะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ในวันที่ 12 กรกฎาคม 2555
"การที่นักลงทุนให้การต้อนรับหุ้น UWC อย่างน่าประทับใจ โดยมีความต้องการเข้ามามากเกินกว่าหุ้นที่จัดสรรสูงหลายเท่าภายหลังเปิดให้จองซื้อ ถือเป็นสัญญาณบวกที่ดีมาก สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มีต่อตัวบริษัท...การกำหนดราคาเสนอขายหุ้นที่ถือว่าเป็นระดับราคาที่น่าสนใจอย่างมากโดยมีส่วนลด (Discount) ให้กับนักลงทุนประมาณ 30% ดังนั้นเชื่อว่าเมื่อหุ้น UWC เข้าเทรดในตลาดหลักทรัพย์ mai จะมีความคึกคักและได้รับการต้อนรับที่ดีจากนักลงทุนเช่นกัน"นายชูพงศ์ กล่าว
ด้านนายวุฒิชัย ลีนะบรรจง ประธานกรรมการบริหาร UWC กล่าวว่า จากผลการสรุปยอดจองซื้อหุ้นไอพีโอของบริษัทพบว่านักลงทุนให้ความสนใจเข้ามาจองซื้อหุ้นจำนวนมากสะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มีต่อบริษัทโดยได้เล็งเห็นถึงศักยภาพในการเติบโตอย่างต่อเนื่องของผลประกอบการในช่วงที่ผ่านมา
ภายหลังการระดมทุนและเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ เชื่อว่าจะยิ่งทำให้ชื่อเสียงของ UWC เป็นที่รู้จักในวงกว้างรวมถึงเป็นที่ยอมรับมากยิ่งขึ้นด้วย ที่สำคัญส่งผลให้ฐานทุนของบริษัทมีความแข็งแกร่ง และยังทำให้บริษัทมีช่องทางหรือทางเลือกในการระดมเงินทุนมากขึ้น เหล่านี้ล้วนแล้วแต่เป็นปัจจัยที่ส่งผลบวกต่อการขยายธุรกิจของ UWC ในอนาคตทั้งสิ้น โดยบริษัทยังคงเดินหน้าขยายธุรกิจเพื่อผลักดันให้ผลประกอบการปี 2555 เติบโตอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ได้ตั้งเป้ารายได้รวมปีนี้ขยายตัวไม่ต่ำกว่า 25%
"กระแสตอบรับจากนักลงทุนที่มีต่อหุ้น UWC ดีเกินกว่าที่คาดไว้ ซึ่งปัจจัยสำคัญสุดอยู่ที่นักลงทุนมั่นใจในศักยภาพการเติบโตของบริษัทที่ธุรกิจมีโอกาสขยายตัวได้อีกมาก จากความต้องการใช้ไฟฟ้าตามชุมชนหรือตามโรงงานอุตสาหกรรมต่างๆ โดยเกี่ยวเนื่องให้มีความต้องการใช้เสาส่งไฟฟ้าขยายตัวตามไปด้วยจึงทำให้เชื่อมั่นว่าเมื่อ UWC เข้าเทรดจะไม่ทำให้นักลงทุนผิดหวัง" นายวุฒิชัย กล่าว
บมจ.เอื้อวิทยา ดำเนินธุรกิจรับผลิตเสาโครงเหล็ก ประเภทเสาโครงเหล็กสายส่งไฟฟ้าแรงสูง เสาโครงเหล็กโทรคมนาคม เสาโครงเหล็กสถานีไฟฟ้าย่อย งานโครงเหล็กทั่วไป โดยปัจจุบัน CEN ถือหุ้นอยู่ 90.98% และภายหลังการขายหุ้น IPO แล้ว CEN จะลดสัดส่วนการถือหุ้นลงเหลือ 65.12%