ตลาดหลักทรัพย์ปิดตลาดช่วงบ่ายวันนี้ที่ระดับ 1,152.91 จุด ลดลง 6.14 จุด(-0.53%)มูลค่าการซื้อขาย 25,987.79 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยแกว่งตัวในแดนลบตลอดทั้งวัน โดยดัชนีฯขึ้นแตะจุดสูงสุดของวันที่ระดับ 1,152.91 จุด และแตะจุดต่ำสุดของวันอยู่ที่ 1,144.44 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 187 หลักทรัพย์ ลดลง 297 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 155 หลักทรัพย์
นายภาดล วรรณรัตน์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง(ประเทศไทย)กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้แกว่งตัวลงตามตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชีย แต่ตลาดบ้านเราดูจะปรับตัวลงน้อยกว่าตลาดภูมิภาคที่ปรับตัวลงเฉลี่ย 1% โดยหุ้นในกลุ่มพลังงาน และปิโตรเคมีปรับตัวลงนำตลาด ภายหลังจากราคาน้ำมันได้ปรับตัวลงแรง
เนื่องจากตลาดฯผิดหวังในเรื่องทีธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด)ไม่ได้มีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ(QE)และทางมูดี้ส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือระหว่างประเทศ ได้ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของธนาคารขนาดใหญ่ 15 แห่ง
แนวโน้มการลงทุนในสัปดาห์หน้า นายภาดล กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยยังมีโอกาสที่จะเกิดเทคนิคเคิลรีบาวน์ได้ จากการคาดการณ์ว่าจะเกิด Window Dressing และในวันที่ 28-29 มิ.ย.จะมีการประชุมผู้นำอียู ซึ่งคาดหวังว่าคงจะมีความชัดเจนในเรื่องการจัดตั้งกองทุนรักษาเสถียรภาพในยุโรป พร้อมให้แนวรับ 1,145 จุด แนวต้าน 1,160-1,170 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
PTT มูลค่าการซื้อขาย 2,057.45 ล้านบาท ปิดที่ 314.00 บาท ลดลง 7.00 บาท
PTTGC มูลค่าการซื้อขาย 1,993.11 ล้านบาท ปิดที่ 54.50 บาท ลดลง 1.75 บาท
SCB มูลค่าการซื้อขาย 1,532.39 ล้านบาท ปิดที่ 142.00 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
BBL มูลค่าการซื้อขาย 1,328.83 ล้านบาท ปิดที่ 181.00 บาท ลดลง 1.50 บาท
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,273.67 ล้านบาท ปิดที่ 159.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.50 บาท