หุ้น BBL ราคาขยับขึ้น 0.83% มาอยู่ที่ 182.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท มูลค่าซื้อขาย 66.27 ล้านบาท เมื่อเวลา 10.13 น. โดยเปิดตลาดที่ 181 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 182.50 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 180.50 บาท
บล.ทรีนีตี้ ระบุในบทวิเคราะห์ฯแนะ"ซื้อ"หุ้น ธนาคารกรุงเทพ(BBL)กำหนดราคาเหมาะสมปี 2555 ของ BBL เท่ากับ 214 บาท อิง PBV 1.55 เท่า ประเมินกำไรสุทธิ 2Q55 ของ BBL เท่ากับ 8,208 ล้านบาท เติบโตราว 2% QoQ จากการขยายสินเชื่อต่อเนื่อง ซึ่งในงวดนี้เห็นการเติบโตดีของสินเชื่อลูกค้ารายใหญ่ที่เป็น Term loan และสินเชื่อกลุ่ม SME จึงเป็นผลบวกต่อ NIM โดยคาดว่า BBL จะได้ประโยชน์จากการเปิด AEC ปี 58 เพราะมีสาขาอยู่ในกลุ่มอาเซียน
พร้อมประเมินว่าแนวโน้ม EPS ปี 2555-56 ของธนาคารฯ จะเติบโตสูงราว 25% YoY และ 14% YoY ตามลำดับ จากการตั้งสำรองฯ ในระดับปกติและประโยชน์จากอัตราภาษีจ่ายที่ลดลง
ด้านบล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง(ประเทศไทย)แนะ"ทยอยสะสม"หุ้น BBL เนื่องจากรายงานยอดสินเชื่อเดือน พ.ค. ขยายตัว +1.7% mom เติบโตสูงที่สุดเทียบกับธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ทั้งหมด จากความต้องการสินเชื่อภาคธุรกิจที่เติบโตต่อเนื่อง รวมทั้งการผลิตของภาคอุตสาหกรรมที่กลับเข้าสู่ภาวะปกติอีกครั้ง จาก 1Q55 ที่ชะลอตัวลงเล็กน้อย เนื่องจากต้องใช้เวลาในการฟื้นฟูจากการเกิดภาวะน้ำท่วม
จึงคาดว่ากำไร 2Q55 ของ BBL จะทำระดับสูงสุดใหม่ที่ 8.5 พันล้านบาท +15% yoy และ +5% qoq จากการเติบโตของสินเชื่อ +2.8% qoq และส่วนต่างอัตราดอกเบี้ย (NIM) ที่ดีขึ้นราว 5bps qoq เป็น 2.55% และคาดว่าส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยได้ผ่านพ้นจุดต่ำสุดไปแล้วใน 1Q55
อีกทั้งมีมุมมองเชิงบวกต่อการเติบโตในระยะยาว โดยเฉพาะอย่างยิ่งความได้เปรียบจากการเปิดเสรีประชาคมอาเซียน (AEC) เนื่องจาก BBL เป็นธนาคารเดียวที่มีการให้บริการสาขาในต่างประเทศ นอกจากนั้น ยังมีฐานทุน (Tier 1) สูงที่สุดในธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ และมีสภาพคล่องส่วนเกินคงเหลืออีกมาก เนื่องจากมี LDR ต่ำที่สุดในกลุ่ม จึงมีความได้เปรียบในการปล่อยกู้สินเชื่อภาคธุรกิจขนาดใหญ่เมื่อเทียบกับคู่แข่งขัน
ดังนั้น ด้วยข้อได้เปรียบหลายๆด้านเมื่อเทียบกับคู่แข่งขัน และการขยายตัวของสินเชื่อ ส่งผลให้ปรับเพิ่มเป้าหมายขึ้นเป็น 210.00 บาท (เดิม 194.00 บาท) และคาดว่าจะจ่ายเงินปันผล 1H55 หุ้นละ 2.00 บาท คิดเป็นผลตอบแทนจากเงินปันผลราว 1.1%