นายกฤษฎิ์ เศรษฐสิน ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บมจ.ทิปโก้ฟูดส์ (TIPCO) เปิดเผยว่า ปี 55 บริษัทตั้งเป้ารักษาอัตรากำไรสุทธิ (Net Profit margin) ที่ระดับใกล้เคียงปีก่อนที่ 6% ทำให้คาดว่ากำไรสุทธิทั้งปี 55 จะใกล้เคียงปีก่อน
"Net profit margin คิดว่าจะทำได้ 6% เท่ากับปีก่อน ถ้าได้เท่าเดิมก็จะทำให้กำไรสุทธิปีนี้น่าจะได้เท่ากับปีก่อน...ตอนแรกตั้งใจให้ Net Profit Margin ไว้ที่ 10% แต่เราได้รับผลกระทบจากยุโรป สหรัฐฯ ก็คิดว่าระดับ 6% maintain เท่ากับปีที่แล้ว" นายกฤษฎิ์ กล่าว
ขณะที่คงเป้าหมายยอดขายที่ 6 พันล้านบาท หรือเติบโต 20% จากปีก่อน แม้ว่าธุรกิจสับปะรดส่งออกจะได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจในสหรัฐและยุโรป แต่บริษัทเร่งเปิดตลาดตะวันออกกลางชดเชย พร้อมรุกตลากน้ำผลไม้ในอาเซียนรับAEC โดยเฉพาะในอินโดนีเซีย
โดยปีนี้บริษัทตั้งเป้ายอดขายน้ำผลไม้ที่ 3 พันล้านบาท จากปีก่อนที่มียอดขาย 2.5 พันล้านบาท และสับปะรดส่งออกตั้งเป้าที่ 3 พันล้านบาท โดยในช่วง 2 ไตรมาสที่ผ่านมาได้ยอดขายประมาณ 1.2. พันบ้านบาทต่ำกว่าเป้า จึงหันมาทำตลาดประเทศแถบตะวันออกกลางเพื่อเพิ่มยอดขายทดแทนตลาดในสหรัฐและยุโรปซึ่งมีการตอบรับดี
สำหรับในไตรมาส 2/55 คาดว่ายอดขายจะเติบโตอย่างน้อย 10% จากช่วงเดียวกันปีก่อน โดยเฉพาะน้ำผลไม้ในประเทศมียอดขายดีมาก เนื่องจากอากาศร้อนนานในปีนี้ รวมทั้งน้ำแร่ออร่า ขณะเดียวกันเป็นไตรมาสที่บริษัทใช้งบการตลาดจำนวน 30 ล้านบาททำให้ค่าใช้จ่ายสูงขึ้นด้วย อย่างไรก็ตามถ้าเทียบกับไตรมาส 1/55 ทั้งรายได้และกำไร ในไตรมาส 2/55 จะสูงกว่า
ส่วนในไตรมาส 3/55 คาดว่ายอดขายจะปรับลดลงตามฤดูกาล โดยผลไม้ที่นำมาผลิตน้ำผลไม้และสับปะรดไม่ออกผลในช่วงนี้ อย่างไรก็ตามบริษัทพยายามขยายช่องทางขายไปยังร้านโชวห่วยในต่างจังหวัดเพิ่มขึ้น ซึ่งจะช่วยให้มีมาร์จิ้นสูงกว่าผ่านช่องทางโมเดิร์นเทรด โดยตั้งเป้าใน 2 ปี จะมีสัดส่วนการขายผ่านร้านโชวห่วยเพิ่มเป็น 50% จาก 30% ในปัจจุบัน ส่วนช่องทางโมเดิร์นเทรดจะลดเหลือ 50% จากปัจจุบันที่ 70%
ขณะที่คาดว่าปีนี้ บมจ.ทิปโก้แอสฟัลท์ (TASCO) ซึ่งบริษัทถืออยู่ 20% นั้นจะรับรู้กำไรเพิ่มเป็น 300 ล้านบาท จากปีก่อนรับรู้กำไร 200ล้านบาท