พ.อ.เศรษฐพงศ์ มะลิสุวรรณ รองประธานกสทช. เปิดเผยผลการประชุมที่ประชุมคณะอนุกรรมการ 3G ได้กำหนดราคาเริ่มต้นประมูลใบอนุญาต 3G บนย่านความถี่ 2.1 กิกะเฮิร์ซที่ 4,500 ล้านบาทต่อคลื่นความถี่ 5 เมกะเฮิร์ซ คำนวณจากราคาตลาด (market price) ที่ 6,440 ล้านบาท ซึ่งเป็นราคาที่ไม่มีกรรมการคนใดคัดค้านและเห็นสอดคล้องกับผลการศึกษาของคณะเศรษฐศาตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ทั้งนี้ เมื่อเทียบกับราคาประมูลคราวที่แล้ว 12,800 ล้านบาท และใช้อัตราเงินเฟ้อที่ผ่านมา 7% เพื่อมาใช้เป็นราคาปัจจุบันเห็นว่าจะได้ใกล้เคียงกับราคาที่เคยตั้งไว้
อย่างไรก็ดี ราคาเริ่มต้นประมูลครั้งเดิมที่ 12,800 ล้านบาท/15 เมกะเฮริ์ซ เป็นราคาเท่ากับราคาตลาด (Market Price) แต่เนื่องจากคณะอนุกรรมการฯ เห็นว่าตลาดโทรคมนาคมมีจำนวนผู้ประกอบการน้อย ถ้าตั้งราคาเท่ากับราคาตลาดจะทำให้ไม่จูงใจ
"ถ้าเราตั้งราคาเริ่มต้นประมูลเท่ากับ market price มีความเสี่ยงสูง จึงจำเป็นต้องมีการพิจารณาให้ลดความเสี่ยง จึงต้องตั้งตัวเลขนี้ (4,500 ลบ.) ทั้งนี้เพื่อให้เกิดแรงจูงใจในการเข้าประมูล อย่างน้อยก็คาดว่า มีแค่ 3 รายที่จะเข้าประมูล ถ้าราคาเริ่มต้นสูงก็มีความเป็นไปได้ว่าจะเหลือ 1-2 รายจึงต้องพิจารณาใช้หลักเศรษฐศาตร์และดุลยพินิจเรื่องตัวเลขเพื่อให้เกิดการประมูล" พ.อ.เศรษฐพงศ์ กล่าว
พ.อ.เศรษฐพงศ์ กล่าวว่า จากการตั้งราคาเริ่มต้นประมูล 4,500 ล้านบาท/ 5 เมกะเฮิร์ซ จากทั้งหมด 45 เมกะเฮิร์ซ จะนำเงินส่งรัฐได้ อย่างน้อยจำนวน 40,500 ล้านบาท
ทั้งนี้จะมีการวางเงินประกันการประมูลที่ 1,350 ล้านบาท หรือ 30% ของราคาเริ่มต้นประมูล 4,500ล้านบาท/5 เมกะเฮิร์ซ และกำหนดให้จ่ายเงิน 50% ของจำนวนเงินที่ประมูลภายใน 45 วันหลังวันรู้ผลประมูล และ 25% ใน 1 ปี และที่เหลือ 25% จ่ายในอีก 1 ปีถัดไป รวมทั้งจ่ายค่าธรรมเนียม 10% ต่อปี ตลอดระยะเวลาที่ได้ใบอนุญาต 15 ปี นอกจากนี้ กำหนดการเปิดให้บริการ (Roll Out) 50% ภายใน 2 ปี และเพิ่มเป็น 80% ใน 4 ปี
หลังจากนี้จะนำข้อสรุปเสนอต่อคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม(กทค.) ในวันพรุ่งนี้(26 มิ.ย.) และจะนำเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการ กสทช.เห็นชอบร่าง IM 3G จากนั้นประกาศขึ้นเว็บไซด์ของ กสทช. รวมทั้งจะขออนุมัติจัดทำประชาพิจารณ์รับฟังความคิดเห็นสาธารณที่คาดว่าจะจัดในเดือนส.ค. และเชิญชวนเอกชนเข้าร่วมประมูลและคาดว่าจะสามารถเปิดประมูลได้ในช่วงกลางเดือน ต.ค.