ตลาดหุ้นนิวยอร์กปรับตัวลดลงหลังจากตลาดเปิดทำการได้ไม่นานในวันนี้ เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับวิกฤตหนี้ยูโรโซนที่กำลังทวีความรุนแรงมากขึ้น หลังจากรัฐบาลสเปนได้ออกมากร้องขอความช่วยเหลือด้านการเงินอย่างเป็นทางการให้กับภาคธนาคารที่กำลังประสบปัญหา
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปรับตัวลง 58.43 จุด หรือ 0.46% แตะที่ 12,582.35 จุด ดัชนี S&P 500 ลดลง 10.31 จุด หรือ 0.85% แตะที่ 1,323.47 จุด ดัชนี Nasdaq ร่วงลง 31.92 จุด หรือ 1.12% แตะที่ 2,860.00 จุด
สเปนได้ยื่นเรื่องขอความช่วยเหลือทางการเงินอย่างเป็นทางการจากประเทศพันธมิตรในยูโรโซนแล้ว เพื่อช่วยเหลือภาคธนาคารที่ประสบปัญหาภายในประเทศ โดยสเปนระบุว่า ธนาคารในประเทศต้องการเงินช่วยเหลือถึง 6.2 หมื่นล้านยูโร (ประมาณ 7.8 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) เพื่อรับมือกับวิกฤตการเงิน ซึ่งต่ำกว่าตัวเลข 1 แสนล้านยูโรที่ยูโรกรุ๊ปเสนอ
อย่างไรก็ดี บรรยากาศการซื้อขายในตลาดได้รับแรงหนุนอยู่บ้าง หลังจากที่ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ประกาศว่า อีซีบีจะผ่อนคลายการยอมรับหลักทรัพย์ค้ำประกันสำหรับเงินกู้ใหม่
นักลงทุนจับตาดูรายงานยอดขายบ้านใหม่เดือนพ.ค.ของสหรัฐ ซึ่งกระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยในวันนี้เวลา 21.00 น.ตามเวลาไทย โดยนักวิเคราะห์จำนวนหนึ่งคาดว่าตัวเลขดังกล่าวจะอาจจะกระเตื้องขึ้นเล็กน้อย สู่ระดับ 0.346 ล้านยูนิต
นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาดูการประชุมสุดยอดของบรรดาผู้นำสหภาพยุโรป (อียู) ที่จะจัดขึ้นที่กรุงบรัสเซลส์ในระหว่างวันที่ 28-29 มิ.ย.นี้ โดยคาดว่าที่ประชุมจะหารือในประเด็นกลไกรักษาเสถียรภาพยุโรป (ESM) หรือกองทุนช่วยเหลือถาวรที่จะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 ก.ค. 2555 แทนกองทุนรักษาเสถียรภาพการเงินยุโรป (EFSF) ซึ่งเป็นกองทุนช่วยเหลือชั่วคราวของภูมิภาคที่จะสิ้นอายุลงในกลางปีนี้ โดยตลาดคาดหวังให้มีการพิจารณาทบทวนถึงบทบาทหน้าที่ของ ESM ให้สามารถเพิ่มทุนโดยตรงแก่ภาคธนาคารที่ประสบปัญหา แทนการปล่อยกู้แก่รัฐบาลประเทศต่างๆ