ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กหวั่นประชุมอียูคว้าน้ำเหลว ฉุดดาวโจนส์ปิดร่วง 138.12 จุด

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday June 26, 2012 06:14 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (25 มิ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนไม่มั่นใจว่าการประชุมผู้นำสหภาพยุโรป (อียู) ซึ่งจะมีขึ้นในสัปดาห์นี้ จะสามารถคลี่คลายวิกฤตหนี้สาธารณะได้ ซึ่งความกังวลในเรื่องดังกล่าวได้ฉุดดาวโจนส์ดิ่งลงกว่า 1% แม้สหรัฐเปิดเผยยอดขายบ้านใหม่ปรับตัวเพิ่มขึ้นก็ตาม

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ร่วงลง 138.12 จุด หรือ 1.09% ปิดที่ 12,502.66 จุด ดัชนี S&P 500 ปรับตัวลง 21.30 จุด หรือ 1.60% ปิดที่ 1,313.72 จุด และดัชนี Nasdaq ร่วงลง 56.26 จุด หรือ 1.95% ปิดที่ 2,836.16 จุด

ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กเป็นไปอย่างผันผวนเนื่องจากนักลงทุนส่วนใหญ่ไม่มั่นใจว่าที่ประชุมอียูจะสามารถบรรลุข้อตกลงเรื่องการคลี่คลายวิกฤตหนี้สาธารณะ ขณะที่นายจอร์จ โซรอส มหาเศรษฐีนักลงทุนชื่อดังได้ออกมาเตือนว่า หากผู้นำอียูไม่สามารถตกลงกันได้เกี่ยวกับแผนการกระตุ้นเศรษฐกิจในการประชุมสัปดาห์นี้ ก็จะส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อยูโรโซน

ตลาดหุ้นนิวยอร์กได้รับปัจจัยลบหลังจากที่สเปนได้ยื่นเรื่องขอความช่วยเหลือทางการเงินอย่างเป็นทางการจากประเทศพันธมิตรในยูโรโซนแล้ว เพื่อช่วยเหลือภาคธนาคารที่ประสบปัญหาภายในประเทศ โดยสเปนระบุว่า ธนาคารในประเทศต้องการเงินช่วยเหลือถึง 6.2 หมื่นล้านยูโร (ประมาณ 7.8 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) เพื่อรับมือกับวิกฤตการเงิน ซึ่งต่ำกว่าตัวเลข 1 แสนล้านยูโรที่ยูโรกรุ๊ปเสนอ

ข่าวการขอความช่วยเหลือด้านการเงินของสเปนส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรของรัฐบาลสเปนพุ่งขึ้น ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่านักลงทุนไม่มีความเชื่อมั่นว่าสเปนจะสามารถชำระคืนหนี้ได้ และยังส่งผลให้สกุลเงินยูโรร่วงลงอย่างหนักด้วย

ความวิตกกังวลเกี่ยวกับการลุกลามของวิกฤตหนี้ยุโรปได้ฉุดตลาดหุ้นนิวยอร์กร่วงลง แม้สหรับเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่เป็นบวกเมื่อช่วงค่ำวานนี้ตามเวลาไทยก็ตาม โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยในวันนี้ว่า ยอดขายบ้านใหม่ประจำเดือนพ.ค.ปรับตัวเพิ่มขึ้น 7.6% สู่ระดับ 369,000 ยูนิตต่อปี ซึ่งเป็นอัตราการขยายตัวที่แข็งแกร่งที่สุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย. 2554 สะท้อนให้เห็นว่าตลาดที่อยู่อาศัยของสหรัฐยังคงฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง แม้อัตราการขยายตัวด้านการจ้างงานชะลอตัวลงก็ตาม

หุ้นกลุ่มการเงินร่วงลงอย่างหนัก โดยหุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา ร่วงลง 4.3% หุ้นมอร์แกน สแตนลีย์ ร่วงลงเช่นกัน

ส่วนหุ้นเทคโนโลยีและหุ้นพลังงานปรับตัวลงด้วย โดยหุ้น Chesapeake Energy ร่วงลง 8.5%

หุ้นไมโครซอฟท์ วงลง 2.7% หุ้นเฟซบุ๊ก ร่วงลง 3%

นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ โดยวันอังคาร สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์/เคส ชิลเลอร์จะเปิดเผยราคาบ้านเดือนเม.ย. และคอนเฟอเรนซ์ บอร์ด จะเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐเดือนมิ.ย.

วันพุธ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนพ.ค. และสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติเปิดเผยยอดทำสัญญาซื้อบ้านที่รอปิดการขายเดือนพ.ค. วันพฤหัสบดี กระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งสุดท้ายของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ที่แท้จริงประจำไตรมาส 1/2555 และกระทรวงแรงงานสหรัฐจะจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์

ส่วนวันศุกร์ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยรายได้ส่วนบุคคลเดือนพ.ค. และรอยเตอร์/มหาวิทยาลัยมิชิแกนจะเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคช่วงท้ายเดือนมิ.ย.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ