กลุ่มโรงกลั่น-ปิโตรฯขยับขึ้น สเปรดโดยรวมสัปดาห์นี้สูงขึ้นจากสัปดาห์ก่อน

หุ้นในกลุ่มโรงกลั่น-ปิโตรเคมีราคาขยับขึ้น โดยเมื่อเวลา 10.21 น.หุ้น IRPC อยู่ที่ 3.58 บาท เพิ่มขึ้น 0.04 บาท(+1.13%)มูลค่าซื้อขาย 9.60 ล้านบาท

หุ้น IVL ราคาอยู่ที่ 27.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท(+1.85%)มูลค่าซื้อขาย 46.46 ล้านบาท

หุ้น PTTGC ราคาอยู่ที่ 55 บาท เพิ่มขึ้น 0.75 บาท(+1.38%)มูลค่าซื้อขาย 28.78 ล้านบาท

หุ้น SCC ราคาอยู่ที่ 314 บาท เพิ่มขึ้น 2 บาท (+0.64%)มูลค่าซื้อขาย 44.23 ล้านบาท

หุ้น TOP ราคาอยู่ที่ 57.75 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท(+0.43%)มูลค่าซื้อขาย 25.43 ล้านบาท

บล.ทรีนี้ตี้ ระบุในบทวิเคราะห์ฯว่า ความต้องการบริโภคปิโตรเคมีภัณฑ์จากผู้ประกอบการในจีนและยุโรปอยู่ในระดับทรงตัว ส่งผลให้ราคาปิโตรเคมีภัณฑ์เปลี่ยนแปลงเล็กน้อย ในขณะที่ราคาวัตถุดับสำคัญอย่าง Naphtha ลดลงค่อนข้างมาก ส่งผลให้สเปรดโดยรวมเพิ่มขึ้น จึงเป็นปัจจัยบวกต่อกลุ่มโรงกลั่นและปิโตรเคมี อย่าง IRPC, IVL, PTTGC, TOP, SCC อย่างไรก็ดี สเปรดปิโตรเคมีในช่วงนี้ค่อนข้างผันผวนตามทิศทางราคาน้ำมันดิบ และข่าวจากปัจจัยภายนอก

ทั้งนี้ สเปรดโดยรวมในรอบสัปดาห์นี้ปรับตัวสูงขึ้นจากสัปดาห์ก่อน เนื่องจากราคาแนฟทา ปรับตัวลดลงค่อนข้างมาก จาก 759 เหรียญฯต่อตัน มาอยู่ที่ 699 เหรียญฯต่อตัน ตามราคาน้ำมันดิบโลกที่อ่อนตัวลงอย่างต่อเนื่องจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ ยุโรป และจีน ในขณะราคาปิโตรเคมีภัณฑ์เปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อยจากสัปดาห์ที่แล้ว ส่งผลให้ สเปรดส่วนต่างราคาโดยรวมเพิ่มขึ้น

ด้าน Ethylene-Naphtha และ Propylene-Naphtha ปรับตัวเพิ่มขึ้น จาก 72 เหรียญฯต่อตัน และ 442 เหรียญฯต่อตัน มาอยู่ที่ 157 เหรียญฯต่อตัน และ 507 เหรียญฯต่อตัน เนื่องจากความต้องการใช้เม็ดพลาสติกในอุตสหกรรมปิโตรเคมีขั้นปลายยังคงทรงตัว เป็นผลให้ราคา Ethylene และ Propylene ปรับตัวสูงขั้นเพียงเล็กน้อย โดยรวมจะเป็นผลดีต่อ PTTGC

สเปรด MEG-0.65*Ethylene ในสัปดาห์นี้ปรับตัวลดลง จาก 310 เหรียญฯต่อตัน มาอยู่ที่ 274 เหรียญฯต่อตัน ซึ่งเป็นปัจจัยลบต่อ PTTGC แต่ส่งผลดีต่อ IVL เนื่องจาก IVL ใช้ Ethylene และ MEG เป็นวัตถุดิบ ในขณะที่ สเปรด HDPE-Naphtha ปรับตัวเพิ่มจาก 517 เหรียญต่อตัน เป็น 577 เหรียญฯต่อตัน โดยรวมจะเป็นผลดีต่อ PTTGC, SCC

ส่วน สเปรดของ PVC นั้นยังปรับตัวลง ราว 6% มาอยู่ที่ 499 เหรียญฯต่อตัน ซึ่งเป็นปัจจจัยลบต่อ VNT

และส่วนต่าง Benzene-Naphtha ปรับตัวลงจาก 242 เหรียญฯต่อตัน มาอยู่ที่ 317 เหรียญฯต่อตัน ส่งผลดี ต่อ IRPC, TOP เนื่องจากความต้องการใช้พลาสติกในอุตสหกรรมรถยนต์ยังอยู่ในระดับที่ดี