นายสมชัย บุญนำศิริ กรรมการผู้จัดการ บลจ.กรุงไทย เปิดเผยว่า บริษัทเปิดจำหน่ายกองทุนเปิดกรุงไทยธนทรัพย์ บี 40 (KTSUPB40) เสนอขาย 27 มิถุนายน — 3 กรกฎาคม 2555 อายุ 3 เดือน เป็นกองทุนที่มีนโยบายลงทุนตราสารหนี้ทั้งในและต่างประเทศ โดยกองทุนนี้จะลงทุนในเงินฝากประจำ Standard Chartered Bank ( Hong Kong ) Ltd. และ เงินฝากประจำ Union National Bank (UNB ) ในสัดส่วน 44% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนรวม ส่วนที่เหลือจะลงทุนในตราสารภาครัฐไทย เงินฝาก ตราสารการเงินระยะสั้น ธนาคารพาณิชย์ไทย และตั๋วแลกเงินบริษัทเอกชนไทย โดยผู้ลงทุนจะได้รับผลตอบแทนประมาณ 3.05% ต่อปี โดยเงินลงทุนในตราสารหนี้ต่างประเทศ จะมีการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน
นอกจากนี้ บริษัทยังอยู่ในระหว่างการเปิดจำหน่าย กองทุนเปิดกรุงไทยประจำ 3 เดือน คุ้มครองเงินต้น 1 (KTFIX3M1) ประเภท Roll Over เสนอขายถึงวันที่ 29 มิถุนายนนี้ เป็นกองทุนที่เน้นลงทุนในพันธบัตรภาครัฐในประเทศ และ เงินฝากประจำธนาคารพาณิชย์ โดยผู้ลงทุนจะได้รับผลตอบแทนประมาณ 2.75% ต่อปี
นายสมชัย กล่าวอีกว่า ตลาดตราสารหนี้ในประเทศมีการแกว่งตัว โดยเริ่มมีแรงขายทำกำไร หลังจากก่อนหน้านี้ อัตราผลตอบแทนของตราสารหนี้ได้ปรับตัวลดลงจากความกังวลต่อความเสี่ยงเศรษฐกิจในยุโรป และการชะลอตัวของเศรษฐกิจในจีนและสหรัฐอเมริกา อย่างไรก็ตาม ผลการเลือกตั้งของกรีซที่พรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาลเป็นฝ่ายที่มีนโยบายสนับสนุนการคงสถานะสมาชิกในยูโร จึงทำให้ตลาดผ่อนคลายความกังวลลงไปบ้าง และมีผลต่อการประมูลตราสารหนี้ในสเปนที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปี เริ่มปรับลดลงจากระดับที่สูงกว่า 7% ต่อปี ลงมาอยู่ต่ำกว่า 6.50% ภายในสัปดาห์
ส่วนของตลาดอัตราแลกเปลี่ยนสกุลบาทเทียบกับดอลล่าร์สหรัฐฯ มีแกว่งตัวตัวในกรอบ 31.50 — 31.80 บาท/ดอลล่าร์สหรัฐฯ โดยคาดว่าจะยังผันผวนตามตัวเลขเศรษฐกิจ และในช่วงสั้นตลาดยังรอจับตาความคืบหน้าของการดำเนินมาตรการของกลุ่มยูโรต่อการแก้ปัญหาหนี้และเศรษฐกิจภายในกลุ่ม ในส่วนของรัฐบาลไทยมีการส่งสัญญาณถึงการเตรียมความพร้อมที่จะดำเนินนโยบายการเงินผ่อนคลายหากเศรษฐกิจไทยได้รับผลกระทบจากปัจจัยต่างประเทศ ดังนั้น จึงทำให้คาดการณ์ได้ว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายของไทยจะอยู่ในระดับ 3.00% ต่อเนื่องไปอย่างน้อยจนถึงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้