นายฟิลิป แทน ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านธุรกิจอิเล็กทรอนิกส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา (BAY) กล่าวว่า ธนาคารได้เปิดตัว กรุงศรี อี-เพย์เมนท์ (Krungsri e-Payment) บริการมอบความปลอดภัยสูงสำหรับการซื้อและชำระค่าสินค้าและบริการออนไลน์รองรับการชำระเงินผ่านบัตรเครดิตชั้นนำที่ออกโดยสถาบันการเงินต่างๆ ทั่วโลก โดยความร่วมมือกับไซเบอร์ซอร์ส (CyberSource) หนึ่งในผู้ให้บริการชำระเงินอีคอมเมิร์ซที่ใหญ่ที่สุดในโลกและเป็นบริษัทในเครือของวีซ่า อินเตอร์เนชั่นแนล ผู้ให้บริการระบบชำระเงินที่ใหญ่ที่สุดของโลก มุ่งสนับสนุนการเติบโตของธุรกิจอีคอมเมิรซ์ในไทย
โดยธุรกิจอีคอมเมิร์ซ (E-commerce) ในไทยมีศักยภาพในการเติบโตอย่างต่อเนื่อง สืบเนื่องจากพฤติกรรมผู้บริโภคที่คุ้นเคยกับการจองหรือซื้อสินค้าและบริการผ่านอินเตอร์เน็ตมากขึ้น อย่างไรก็ตามธุรกิจอีคอมเมิร์ซจะสามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง ผู้บริโภคจะต้องเชื่อมั่นในระบบความปลอดภัยของระบบชำระเงินออนไลน์ ดังนั้นบริการ Krungsri e-Payment เป็นเทคโนโลยีชำระเงินล่าสุดที่มอบความปลอดภัยสูงรองรับการชำระเงินออนไลน์ผ่านบัตรเครดิตชั้นนำที่ออกโดยสถาบันการเงินต่างๆ ทั่วโลก แก่ร้านค้าที่ขายสินค้าและบริการออนไลน์รวมถึงธุรกิจโรงแรม สายการบิน ท่องเที่ยว สถาบันการศึกษา และการจองตั๋วประเภทต่างๆ มอบความมั่นใจในด้านความปลอดภัย ในการใช้บัตรเครดิตชำระเงินออนไลน์อีกทั้งเพิ่มปริมาณการทำธุรกรรมให้สามารถรับชำระสินค้าและบริการได้ทั่วโลกตลอด 24 ชั่วโมง โดยธนาคารได้ตั้งเป้าว่าจะมีร้านค้าที่ใช้บริการดังกล่าวกว่า 5,000 ราย
นายสมบูรณ์ ครบธีรนนท์ ผู้จัดการบริษัทวีซ่า ประจำประเทศไทย กล่าวว่า จากผลการสำรวจแนวโน้มและพฤติกรรมผู้บริโภคในการซื้อของออนไลน์ของวีซ่า พบว่าคนไทยมากกว่า 75% จับจ่ายเลือกซื้อสินค้าและบริการออนไลน์ โดยมีกลุ่มสินค้าหรือบริการยอดนิยม 5 ลำดับแรก คือ ตั๋วเครื่องบิน เสื้อผ้า/รองเท้า หนังสือ โรงแรม และการประมูลซื้อสินค้าออนไลน์ ทั้งนี้ปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อความพึงพอใจของผู้ซื้อของออนไลน์คือ ความปลอดภัย ความน่าเชื่อถือของเว็บไซต์ ราคา และคุณภาพของข้อมูลเกี่ยวกับสินค้า โดยกว่า 50% ของนักช้อปออนไลน์เป็นนักช้อปออนไลน์ข้ามประเทศ
สำหรับผู้บริโภคกลุ่ม Gen-Y ซึ่งมีอายุระหว่าง 18-28 ปี ทางวีซ่าพบว่าพฤติกรรมการซื้อของออนไลน์มีระดับความนิยมที่แตกต่างกันในแต่ละประเทศ แต่ “ความปลอดภัย" ยังคงเป็นปัจจัยสำคัญที่สุด ตามด้วย “การยอมรับ" และ “ความสะดวก" ทั้งนี้หากราคาสินค้าสูงขึ้น กลุ่ม Gen-Y มีแนวโน้มจะใช้เงินสดลดลง แต่บัตรเดบิต หรือบัตรเครดิต เพิ่มขึ้น โดยมีผู้บริโภคกลุ่ม Gen-Y มากกว่า 80% หวังว่าจะได้ใช้บริการซื้อสินค้าและบริการ โดยชำระเงินผ่านระบบออนไลน์ทั้งหมด