ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (26 มิ.ย.) หลังจากสแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์/เคส ชิลเลอร์เปิดเผยว่า ราคาบ้านในสหรัฐปรับตัวขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 อย่างไรก็ตาม ภาวะการซื้อขายเป็นไปอย่างซบเซา เนื่องจากดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสหรัฐปรับตัวลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 4 และความวิตกกังวลเกี่ยวกับวิกฤตหนี้ยุโรปยังคงสร้างแรงกดดันให้กับตลาด
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ดีดขึ้น 32.01 จุด หรือ 0.26% ปิดที่ 12,534.67 จุด ดัชนี S&P 500 ปรับตัวขึ้น 6.27 จุด หรือ 0.48% ปิดที่ 1,319.99 จุด และดัชนี Nasdaq เพิ่มขึ้น 17.90 จุด หรือ 0.63% ปิดที่ 2,854.06 จุด
ตลาดหุ้นนิวยอร์กดีดตัวขึ้นหลังจากสแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์/เคส ชิลเลอร์เปิดเผยว่า ราคาบ้านเดือนเม.ย.ปรับตัวขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกัน โดยดัชนีราคาบ้านใน 20 เมืองใหญ่ปรับตัวขึ้น 0.7% ซึ่งบ่งชี้ว่า ตลาดอสังหาริมทรัพย์มีแนวโน้มปรับตัวสู่ช่วงขาขึ้น และสอดคล้องกับรายงานก่อนหน้านี้ที่ว่า ยอดขายบ้านใหม่เดือนพ.ค.ปรับตัวเพิ่มขึ้น 7.6% สู่ระดับ 369,000 ยูนิตต่อปี ซึ่งเป็นอัตราการขยายตัวที่แข็งแกร่งที่สุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย. 2554
แต่ตลาดลดแรงบวกลงอย่างรวดเร็ว หลังจากคอนเฟอเรนซ์ บอร์ดรายงานว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐเดือนมิ.ย.ปรับตัวลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4 ติดต่อกัน สู่ระดับ 62.0 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ต้นปีนี้ จาก 64.4 ในเดือนพ.ค. ขณะที่ผู้บริโภคมีความวิตกกังวลมากขึ้นเกี่ยวกับแนวโน้มทางเศรษฐกิจ
ส่วนดัชนีสถานการณ์ปัจจุบันขยับขึ้นเล็กน้อยสู่ระดับ 46.6 ในเดือนพ.ค. จากระดับ 44.9 ในเดือนที่แล้ว ขณะที่ดัชนีคาดการณ์ภาวะเศรษฐกิจก็อ่อนแรงลงแตะ 72.3 จาก 77.3 ในเดือนพ.ค.
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับการลุกลามของวิกฤตหนี้ หลังจากมูดีส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิส ประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือตราสารหนี้ระยะยาวและเงินฝากของธนาคารพาณิชย์ 28 แห่งของสเปนลง 1 - 4 ขั้น ซึ่งความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้นหลังจากที่สเปนได้ยื่นเรื่องขอความช่วยเหลือทางการเงินอย่างเป็นทางการจากประเทศพันธมิตรในยูโรโซน เพื่อช่วยเหลือภาคธนาคารที่ประสบปัญหาภายในประเทศ โดยสเปนระบุว่า ธนาคารในประเทศต้องการเงินช่วยเหลือถึง 6.2 หมื่นล้านยูโร (ประมาณ 7.8 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) เพื่อรับมือกับวิกฤตการเงิน ซึ่งต่ำกว่าตัวเลข 1 แสนล้านยูโรที่ยูโรกรุ๊ปเสนอ
มูดีส์ระบุว่า อันดับความน่าเชื่อถือที่ลดลงของสเปนนั้น ไม่เพียงแต่ส่งผลกระทบต่อความสามารถของรัฐบาลในการสนับสนุนภาคธนาคารเท่านั้น แต่ยังส่งผลกระทบต่อประวัติด้านสินเชื่อของธนาคารพาณิชย์ด้วย
หุ้นนิวส์ คอร์ป พุ่งขึ้น 8.3% หลังจากมีรายงานว่านิวส์ คอร์ป กำลังพิจารณาเรื่องการแยกธุรกิจด้านสื่อสิ่งพิมพ์ รวมถึงหนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัล ออกจากธุรกิจบันเทิง
หุ้นเจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค พุ่งขึ้น 1.1% หุ้นมอร์แกน สแตนลีย์ ดีดตัวขึ้น 0.2%
นักลงทุนจับตาดูการประชุมสุดยอดของบรรดาผู้นำอียูที่จะจัดขึ้นที่กรุงบรัสเซลส์ในระหว่างวันที่ 28-29 มิ.ย.นี้ โดยคาดว่าที่ประชุมจะหารือในประเด็นกลไกรักษาเสถียรภาพยุโรป (ESM) หรือกองทุนช่วยเหลือถาวรที่จะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 ก.ค. 2555 แทนกองทุนรักษาเสถียรภาพการเงินยุโรป (EFSF) ซึ่งเป็นกองทุนช่วยเหลือชั่วคราวของภูมิภาคที่จะสิ้นอายุลงในกลางปีนี้
นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ โดยวันพุธ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนพ.ค. และสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติเปิดเผยยอดทำสัญญาซื้อบ้านที่รอปิดการขายเดือนพ.ค. วันพฤหัสบดี กระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ประจำไตรมาส 1/2555 และกระทรวงแรงงานสหรัฐจะจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์
ส่วนวันศุกร์ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยรายได้ส่วนบุคคลเดือนพ.ค. และรอยเตอร์/มหาวิทยาลัยมิชิแกนจะเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคช่วงท้ายเดือนมิ.ย.