บมจ.ควอลิตี้เฮ้าส์(QH)คาดว่าบริษัทจะมีกำไรราว 700-800 ล้านบาทจากการขายสินทรัพย์ส่วนหนึ่งให้กับกองทุนอสังหาริมทรัพย์ที่จัดตั้งขึ้นใหม่ โดยจะบันทึกไว้ในงบการเงินไตรมาส 3/55 และจะส่งผลให้กำไรของบริษัทในปีนี้เติบโตเพิ่มขึ้นเป็น 70% จากเดิมคาดไว้ที่ 50% อีกทั้งในสิ้นปีนี้สัดส่วนหนี้สินต่อทุน(D/E)จะลดลงเหลือ 1.3 เท่า จากเดิม 1.7 เท่า หลังจากบริษัทยอยชำระคืนหนี้เงินกู้ โดยในช่วงไตรมาส 3/55 บริษัทมีแผนจะออกหุ้นกู้วงเงินไม่ต่ำกว่า 2.5 พันล้านบาท
ส่วนในปี 56 บริษัทคาดว่ารายได้จะเติบโตราว 15-20% จากปีนี้เติบโตประมาณ 30% และจะตั้งงบลงทุนซื้อที่ดินใหม่กว่า 3 พันล้านบาท
"ปีนี้คิดว่ากำไรจะโตเกิน 70% เรามีกำไร growth จากธุรกิจ และกำไรจากการขาย asset...เรารับรู้กำไรจากการขายกองทุนอสังหาฯประมาณ 700 -800 ล้านบาท"นางสุวรรณา พุทธประสาท กรรมการและรองกรรมการผู้จัดการ QH กล่าว
ด้านแนวโน้มยอดขายในครึ่งปีหลังดีกว่าครึ่งปีแรก ซึ่งในช่วงครึ่งแรกมียอด presale เกินครึ่งจากเป้าหมายที่วางไว้ 1.5-1.6 หมื่นล้านบาท ส่วนครึ่งปีหลังจะมีการรับรู้รายได้จากโครงการคอนโดมิเนียม Trust ปิ่นเกล้าประมาณ 3 พันกว่าล้านบาท ทำให้ทั้งปี 55 คาดว่าจะมีรายได้โต 30%
ในปี 56 คาดว่ายอดรับรู้รายได้จะเติบโตไม่น้อยกว่า 15-20% และคาดว่าจากนี้ไปจะมีอัตราการเติบโตระดับนี้ และตั้งงบซื้อทีดินปีละ 3 พันล้านบาทเพื่อพัฒนาโครงการบ้านเดี่ยวและคอนโดมิเนียมต่อไป นางสุวรรณา กล่าวว่า บริษัทจัดตั้งกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่า ควอลิตี้ เฮ้าส์ โฮเทล แอนด์ เรซิเดนท์ (QHHR) มูลค่ากองทุน 3,360 ล้านบาท โดยบริษัทจะนำเงินที่ได้จากการขายกองทุน QHHR จำนวน 2 พันล้านบาทไปชำระหนี้ ส่วนที่เหลือกลับเข้าไปถือในกองทุน QHHR และปีหน้าไม่มีแผนออกกองทุนอสังหาริมทรัพย์
การชำระคืนหนี้ดังกล่าวจะทำให้ D/E จะปรับลดลงเหลือ 1.5 เท่าจากต้นปีอยู่ที่ 1.7 เท่า และคาดว่าสิ้นปีนี้จะลดเหลือ 1.3 เท่า จากการใข้กระแสเงินสดจากการดำเนินงานทยอยชำระคืนเงินกู้ และคาดว่าในปี 56 ระดับ D/E จะใกล้เคียง 1 เท่า และปี 57 จะมีระดับต่ำกว่า 1 เท่า
ทั้งนี้ กองทุน QHHR จะลงทุนใน 3 โครงการในเครือเซนเตอร์พอยต์ โฮเทล แอนด์ เรซิเดนท์ ประกอบด้วย ลงทุนในกรรมสิทธิ์ของโครงการเซนเตอร์พอยต์ โฮเทล แอนด์ เรซิเดนท์ เพชรบุรี และโครงการเซนเตอร์พอยต์ โฮเทล แอนด์ เรซิเดนทซ์ สุขุมวิท และ ลงทุนในสิทธิการเช่าอายุ 14 ปีของโครงการเซนเตอร์พอยต์ โฮเทล แอนด์ เรซิเดนทซ์หลังสวน ซึ่งมีบล.ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) เป็นที่ปากษาทางการเงิน และ บลจ.แลนด์แอนด์เฮ้าส์ ทำหน้าที่บริหารกองทุน
บล.ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย)และธนาคารไทยพาณิชย์ เป็นผู้จัดการการจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย โดยจะเสนอขายให้กับประชาชนทั่วไปเป็นเครั้งแรก (IPO) ในวันที่ 5-13 ก.ค. 55 กำหนดจองขั้นต่ำ 10,000 บาท
ในส่วนของผลตอบแทนจากการลงทุน QH ในฐานะผู้สนับสนุนจะรับประกันรายได้ค่าเช่าชั้นต่ำตลอด 3 ปีแรก จำนวนที่ 835 ล้านบาท หรือเฉลี่ยปีละ 266 ล้านบาท คิดเป็นผลตอบแทนประมาณ 7-8% ต่อปี ซึ่งใกล้เคียงกับกองทุนอสังหาริมทรัพย์อื่น