นายวีระพล ไชยธีรัตต์ กรรมการผู้จัดการ บมจ.ชัยวัฒนา แทนเนอรี่ กรุ๊ป (CWT) เผยมีความเป็นไปได้ว่าอาจจะปรับเป้ารายได้เพิ่ม หากบริษัทได้รับคำสั่งซื้อเพิ่มจากการเดินทางไปดูแนโนวโน้มอุตสาหกรรมที่อินโดนีเซียช่วงวันที่ 5-9 ก.ค.นี้
"จากแนวโน้มอุตสาหกรรมที่น่าจะยังบวกตลอดทั้งปีทำให้เป้ารายได้ที่คาดว่าจะเติบโตได้ 40% หรือแตะระดับ 1.2 พันล้านบาทในปีนี้น่าจะเป็นไปได้ อย่างไรก็ตามระหว่างวันที่ 5-9 กรกฎาคมนี้ กลุ่มผู้ผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ของไทยรวมถึงชัยวัฒนาฯ จะเดินทางไปประเทศอินโดนีเซียเพื่อดูแนวโน้มธุรกิจ รวมทั้งหากบริษัทได้รับคำสั่งซื้อเพิ่มจากรถยนต์คันเล็กค่ายฮอนด้า ซึ่งคำสั่งซื้อยังอยู่ในระดับสิบล้านบาท เป็นไปได้ว่าอาจจะปรับเป้ารายได้เพิ่มก็เป็นได้" นายวีระพล กล่าว
ทั้งนี้ จากการที่ยอดผลิตรถยนต์ของไทยสามารถสร้างสถิติใหม่ในเดือนพฤษภาคมด้วยยอดผลิตกว่า 2 แสนคัน ทำให้ก้าวขึ้นมาเป็นผู้ผลิตรถยนต์อันดับที่ 6 ของโลก เป็นเหตุมาจากคำสั่งซื้อรถยนต์ที่ค้างการผลิตมาตั้งแต่ช่วงน้ำท่วมกลับมาฟื้นตัวที่ในเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา ทำให้ภาพรวมธุรกิจผลิตชิ้นส่วนรถยนต์กลับมาคึกคักตามไปด้วยและมีแนวโน้มบวกไปจนถึงสิ้นปี 2555
ประเด็นที่น่าสนใจคือจากเดิมยอดผลิตรถยนต์ของไทย 50% จะเป็นกลุ่มรถกระบะ แต่เดือนที่ผ่านมาตัวเลขรถเล็ก เช่น อีโคคาร์ เริ่มมีสัดส่วนเพิ่มมากขึ้น ซึ่งส่งผลดีต่อบริษัทฯ ที่หันมาผลิตเบาะผ้าสำหรับรถยนต์ขนาดเล็กมากขึ้น อาทิ คำสั่งซื้อจากค่ายมิตซูบิชิ
ส่วนของยอดขายรถยนต์น่าจะมีการเติบโตในทิศทางบวกเช่นเดียวกับยอดผลิต โดยเฉพาะรถยนต์ขนาดเล็กเนื่องจากขณะนี้มีความต้องการซื้อที่สูงกว่ายอดการผลิตแล้วโดยมีผลมาจากนโยบายรถคันแรกที่ได้รับการต่ออายุออกไปด้วย
"คำสั่งซื้อรถที่เติบโตขึ้นทำให้เราต้องเพิ่มกำลังการผลิตตาม ทั้งส่วนของธุรกิจเดิมคือเบาะหนังที่ยังเติบโตอยู่ แต่เบาะผ้าซึ่งเป็นธุรกิจใหม่มีอัตราการเติบโตมากกว่า"นายวีระพล กล่าว