AAV เดินสายโรดโชว์สร้างความมั่นใจนักลงทุนรายย่อย หลังราคาหุ้นต่ำ IPO

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday June 28, 2012 15:52 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายทัศพล แบเลเว็ลด์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เอเชีย เอวิเอชั่น(AAV)ผู้ถือหุ้นใหญ่ในสายการบินไทยแอร์เอเชีย เปิดเผยว่า ขณะนี้ทีมคณะผู้บริหาร บมจ.เอเชีย เอวิเอชั่น และพนักงานสายการบินไทยแอร์เอเชีย อยู่ระหว่างการเดินสายพบนักลงทุนในประเทศ เพื่อให้ข้อมูล สร้างความเข้าใจ และให้ความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนมากยิ่งขึ้น ภายหลังเมื่อ 31 พ.ค.ที่ผ่านมา AAV เข้ามาเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ในช่วงที่ผ่านมา ทีมผู้บริหารและพนักงานสายการบินไทยแอร์เอเชียได้เดินทางให้ข้อมูลบริษัทฯ แก่นักลงทุนย่อยจากบริษัทหลักทรัพย์ชั้นนำต่างๆ อาทิ บล. ธนชาต, บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย), บล.บัวหลวง, และ บล.ฟินันเซีย ไซรัส นอกจากการเดินสายพบนักลงทุนรายย่อยในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลแล้ว มีแผนเดินสายให้ข้อมูลแก่นักลงทุนรายย่อยในพื้นที่ต่างจังหวัดทั่วหัวเมืองใหญ่ อาทิเชียงใหม่, หาดใหญ่ จังหวัดสงขลา, อุดรธานี และขอนแก่น

"ขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างการเดินสายให้ข้อมูลกับนักลงทุนรายย่อยในต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง โดยผลการตอบรับการให้ข้อมูลแก่นักลงทุนในช่วงที่ผ่านมานับว่าผลตอบรับที่ดีมากมีนักลงทุนให้ความสนใจเข้ารับฟังข้อมูลของบริษัทฯ จำนวนมาก ซึ่งส่วนหนึ่งอาจมาจากนักลงทุนเห็นศักยภาพและทิศทางการเติบโตในธุรกิจสายการบินราคาประหยัดหรือสายการบินต้นทุนต่ำของไทยแอร์เอเชีย โดยในการโรดโชว์ครั้งนี้ทีมผู้บริหารเตรียมนำเสนอข้อมูลต่างๆ รายงานให้กับนักลงทุนได้รับทราบในทุกๆประเด็นที่ข้องใจอีกด้วย"นายทัศพล กล่าว

นายทัศพล กล่าวอีกว่า คณะผู้บริหารรวมทั้งพนักงานบริษัททุกคนพร้อมจะทุ่มเทกำลังกายและความสามารถอย่างเต็มที่เพื่อผลักดันให้สายการบินไทยแอร์เอเชียก้าวเป็นผู้นำสายการบินราคาประหยัดของเอเชีย และเพื่อให้ผลประกอบการของบริษัทฯ มีอัตราการขยายตัวที่ดีอย่างต่อเนื่องและเข้มแข็ง เพื่อมุ่งมั่นสร้างผลตอบแทนที่ดีให้แก่นักลงทุนในระยะยาว โดยการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ครั้งนี้จะทำให้สายการบินมีฐานะการเงินที่แข็งแกร่ง สามารถบริหารต้นทุนให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ทั้งการจัดหาเครื่องบินในรูปแบบซื้อหรือเช่าในต้นทุนที่ต่ำที่สุด

ไทยแอร์เอเชียจะทยอยรับเครื่องบินแอร์บัส A320 ใหม่ มาประจำการฝูงบินจนครบ 48 ลำ ภายในปี 2559 นี้ (ปัจจุบันมีอยู่ 24 ลำ) ซึ่งจะทำให้บริษัทสามารถเพิ่มความถี่และขยายเส้นทางบินใหม่ๆ ตื่นตาตื่นใจอย่างต่อเนื่อง โดยตั้งเป้าในตลาดนักท่องเที่ยวที่กำลังเติบโตรวดเร็วและมีศักยภาพพร้อมอย่างจีนและอินเดียที่เป็นตลาดที่มีประชากรมากที่สุดในโลก

และจะเปิดศูนย์ปฏิบัติการการบินภายในประเทศแห่งที่ 3 และ 4 ที่หาดใหญ่และอุดรธานี หลังจากประสบความสำเร็จกับศูนย์ปฏิบัติการการบินกรุงเทพฯ ภูเก็ต และเชียงใหม่ โดยมีอัตราเติบโตเฉลี่ยต่อปี 20-25% สิ่งเหล่านี้ถือเป็นเป้าหมายและทิศทางที่ชัดเจน ผู้ถือหุ้นและนักลงทุนทุกคนจึงมั่นใจได้เลยว่า AAV จะเป็นหุ้นที่เติบโตอย่างแน่นอน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ