ภาวะตลาดหุ้นยุโรป: หุ้นยุโรปปิดลบ หลังบอนด์ยีลอิตาลี,ว่างงานเยอรมนีพุ่ง

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday June 29, 2012 06:16 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเมื่อคืนนี้ (28 มิ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับทิศทางเศรษฐกิจของยูโรโซน หลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรของอิตาลีและอัตราว่างงานเยอรมนีปรับตัวสูงขึ้น นอกจากนี้ นักลงทุนยังมีท่าทีระมัดระวังก่อนที่จะรับทราบผลการประชุมสุดยอดผู้นำสหภาพยุโรป (อียู) ซึ่งจะเสร็จสิ้นในช่วงค่ำวันศุกร์ตามเวลาไทย

ดัชนี Stoxx Europe 600 ร่วงลง 0.6% แตะที่ 244.67 จุด

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 3,051.68 จุด ลดลง 11.44 จุด ดัชนี FTSE ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 5,493.06 จุด ลดลง 30.86 จุด ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 6,149.91 จุด ลดลง 79.08 จุด

ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัลงหลังจากเยอรมนีเปิดเผยว่า อัตรว่างงานในเดือนมิ.ย.ยังคงทรงตัวอยู่อยู่ที่ระดับ 6.8% ขณะที่จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานเพิ่มขึ้น 7,000 ราย มาอยู่ที่ 2.882 ล้านรายในเดือนดังกล่าว

ส่วนอิตาลีระดมทุนจากการประมูลขายพันธบัตร 2 ชุด ได้ 5.423 พันล้านยูโรเมื่อช่วงเย็นวานนี้ตามเวลาไทย ซึ่งใกล้เคียงกับเป้าหมายสูงสุดที่วางไว้ที่ 2.75-5.50 พันล้านยูโร ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรปรับตัวสูงขึ้นเมื่อเทียบกับการประมูลครั้งก่อน

ธนาคารกลางอิตาลีเปิดเผยว่า อิตาลีขายพันธบัตรอายุ 5 ปีที่จะครบกำหนดไถ่ถอนในเดือนมิ.ย.2560 ได้ 2.5 พันล้านยูโร ที่อัตราผลตอบแทน 5.84% เพิ่มขึ้นจากระดับ 5.66% ในการประมูลเมื่อวันที่ 30 พ.ค.ที่ผ่านมา ขณะที่ความต้องการซื้อสูงกว่าจำนวนที่นำออกประมูลอยู่ 1.54 เท่า เทียบกับ 1.35 เท่าในการประมูลเดือนที่แล้ว ส่วนพันธบัตรอายุ 10 ปีที่จะครบกำหนดไถ่ถอนในเดือนก.ค.2565 นั้นสามารถขายได้ 2.923 พันล้านยูโร ที่อัตราผลตอบแทน 6.19% เพิ่มขึ้นจากระดับ 6.03% ในการประมูลเมื่อวันที่ 30 พ.ค.เช่นกัน ขณะที่ความต้องการซื้อสูงกว่าจำนวนที่นำออกประมูลอยู่ 1.28 เท่า ลดลงจากระดับ 1.40 เท่าในการประมูลครั้งก่อน

หุ้นธนาคารบาร์เคลย์ส ร่วงลง 16% ซึ่งเป็นการปรับตัวลงหนักสุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค 2009 หลังจากมีข่าวว่านายบ็อบ ไดมอนด์ ซีอีโอของบาร์เคลย์ ถูกกดดันให้ลาออกจากตำแหน่ง ภายหลังจากบาร์เคลย์สต้องจ่ายเงินสูงถึง 453 ล้านดอลลาร์ให้แก่ทางการสหรัฐและอังกฤษเพื่อยุติข้อกล่าวหาที่ว่า บาร์เคลย์สปั่นอัตราดอกเบี้ย Libor

การร่วงลงของหุ้นธนาคารบาร์เคลย์สได้ฉุดหุ้นตัวอื่นๆในกลุ่มธนาคารดิ่งลงเช่นกัน โดยหุ้นธนาคารรอยัล แบงก์ ออฟ สก็อตแลนด์ ร่วงลง 11% หุ้นธนาคาร HSBC ดิ่งลง 2.6% และหุ้นธนาคารลอยด์ แบงกิง ร่วงลง 3.9% หุ้นธนาคารบังเกียร่วงลง 3.9% หุ้นธนาคารบังโค ป๊อปปูเลร์ ร่วงลง 2.6%

นักลงทุนมีท่าทีระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่จะรับทราบผลการประชุมสุดยอดผู้นำอียูจัดขึ้นที่กรุงบรัสเซลส์ในระหว่างวันที่ 28-29 มิ.ย. โดยนักลงทุนจำนวนมากมองว่าการประชุมครั้งนี้จะไม่สามารถคลี่คลายวิกฤตการณ์ได้ เนื่องจากนางอังเกลา แมร์เคล นายกรัฐมนตรีเยอรมนี ยังคงยืนกรานอย่างหนักแน่นว่า เธอไม่เห็นด้วยกับการออกพันธบัตรหรือตั๋วเงินคลังร่วมกันในกลุ่มประเทศที่ใช้สกุลเงินยูโร (ยูโรบอนด์) พร้อมกับเตือนว่ายุโรปไม่ควรหวังว่าจะมีวิธีที่รวดเร็วในการแก้ปัญหาหนี้ในภูมิภาค


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ