นายปิยะวัฒน์ ฐิตะสัทธาวรกุล กรรมการผู้จัดการ บมจ. ซีพี ออลล์ (CPALL) คาดว่าแนวโน้มผลประกอบการในช่วงไตรมาส 2/55 น่าจะมียอดขายเติบโตในระดับ 6-7% จากเป้าหมายที่ 5% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน และคาดว่าจะดีกว่าไตรมาส 1/55 ด้วย เนื่องจากอากาศในช่วงที่ผ่านมาร้อนมากทำให้ยอดขายร้านเซเว่น-อีเลฟเว่น (7-11) ทั้งเครื่องดื่มและอาหารสูงขึ้น ประกอบกับมีการถ่ายทอดสดฟุตบอลยูโรในช่วงเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมาในช่วงดึกทำให้มียอดขายอาหารดีขึ้น
"ไตรมาส 2/55 ยอดขายของเราดีกว่าเป้า 1-2% เทียบกับไตรมาส 2/54 เพราะมีบอลยูโรช่วยไว้ และอากาศร้อน ขายเครื่องดื่มได้มาก"นายปิยวัฒน์ กล่าว
ทั้งนี้ คาดว่ายอดขายทั้งปี 55 จะเติบโต 13-14% ทั้งจากการเติบโตจากสาขาเดิม และการเพิ่มขึ้นของสาขาใหม่ที่ปีนี้เปิดใหม่ 500 สาขา ซึ่งคาดว่าสิ้นปีนี้จะมีสาขาเพิ่มเป็น 6,800 สาขา จากปัจจุบันมี 6,660 สาขา และปีหน้าจะทะลุ 7,000 สาขา
นายปิยะวัฒน์ กล่าวว่า เศรษฐกิจไทยได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจโลกในปีนี้ แต่การเติบโตก็ยังเป็นบวก และเชื่อว่าธุรกิจค้าปลีก รวมถึงร้าน 7-11 จะไม่ได้รับผลกระทบ เพราะขายสินค้าจำเป็นการดำรงชีพ โดยที่ผ่านมา ยอดขายของบริษัทไม่กระทบแม้จะมีวิกฤติเกิดขึ้นหลายครั้งเช่น วิกฤติต้มยำกุ้ง ไข้หวัดนก วิกฤติแฮมเบอร์เกอร์ เป็นต้น
นอกจากนี้ บริษัทได้เพิ่มงบลงทุน 800-1,000 ล้านบาทในการจัดตั้งศูนย์กระจายสินค้าเพิ่มอีก 1 แห่ง ที่จ.ชลบุรี เพือรองรับน้ำท่วมกระจายสินค้าในกรุงเทพ ซึ่งจะสร้างแล้วเสร็จในเดือน ส.ค.นี้ และได้เตรียมแผนป้องก้นล่วงหน้าตามร้าน 7-11 รวมทั้งให้ยกสินค้าแพงเก็บไว้ชั้นบน
ส่วนการขยายร้าน 7-11 ไปในประเทศจีน และเวียดนาม นายปิยะวัฒน์ กล่าวว่า ทางเจ้าของลิขสิทธิ์จากญี่ปุ่น ต้องการให้รอออกไปอีก 2 ปี เพราะขณะนี้สถานการณ์ยังไม่เหมาะสม โดยในเวียดนามเห็๋นว่าขณะนี้มีอัตราเงินเฟ้อพุ่งสูงถึง 6-7%
"ทางเจ้าของยังไม่ให้ไป ขอให้ไปคุยอีก 2 ปี ปีหน้าก็เอาไว้ก่อน"นายปิยะวัฒน์ กล่าว