ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดลบ 8.70 จุด หลังภาคการผลิตสหรัฐซบเซา

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday July 3, 2012 06:34 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (2 ก.ค.) หลังจากสหรัฐเปิดเผยดัชนีภาคการผลิตที่อ่อนแอลงในเดือนมิ.ย. อย่างไรก็ตาม ดาวโจนส์ขยับลงเพียงเล็กน้อย ในขณะที่ดัชนี Nasdaq และ S&P 500 ปิดบวก เนื่องจากภาวะการซื้อขายได้รับแรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า เศรษฐกิจที่อ่อนแออาจจะกระตุ้นให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ใช้มาตรการเพิ่มเติมเพื่อหนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ขยับลง 8.70 จุด หรือ 0.07% ปิดที่ 12,871.39 จุด ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 3.35 จุด หรือ 0.25% ปิดที่ 1,365.51 จุด และดัชนี Nasdaq เพิ่มขึ้น 16.18 จุด หรือ 0.55% ปิดที่ 2,951.23 จุด

ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กเป็นไปอย่างผันผวน หลังจากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยว่า ดัชนีภาคการผลิตร่วงลงแตะ 49.7 ในเดือนมิ.ย. จากระดับ 53.5 ในเดือนพ.ค. เนื่องจากยอดสั่งซื้อใหม่ดิ่งหนัก

ภาคการผลิตสหรัฐร่วงลงเกินคาดในเดือนมิ.ย. และเข้าสู่ภาวะหดตัวเป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 3 ปี ส่งสัญญาณว่าการขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐอาจหยุดชะงัก นอกจากนี้ ภาคการผลิตของสหรัฐที่หดตัวลงนั้นยังสอดคล้องกับภูมิภาคอื่นๆของโลก โดยมาร์กิต อีโคโนมิคส์ รายงานในวันนี้ว่า ภาคการผลิตในยูโรโซนทรงตัวที่ 45.1 ในเดือนมิ.ย. ซึ่งเป็นการหดตัวเดือนที่ 11 ติดต่อกัน ขณะที่ เอชเอสบีซี โฮลดิงส์ เปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของจีน ลดลงแตะ 48.2 ในเดือนมิ.ย. จาก 48.4 ในเดือนก่อนหน้า

อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นนิวยอร์กได้รับแรงหนุนในระดับหนึ่ง หลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า การใช้จ่ายภาคการก่อสร้างปรับตัวขึ้น 0.9% ในเดือนพ.ค. มาอยู่ที่ 8.30 แสนล้านดอลลาร์ หลังจากเพิ่มขึ้น 0.6% ในเดือนเม.ย. โดยการเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายในเดือนพ.ค.นับว่ามากสุดตั้งแต่เดือนธ.ค.2554 และมากกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ไว้ว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 0.2% ขณะที่มูลค่าในเดือนพ.ค.ก็นับว่าสูงที่สุดตั้งแต่เดือนธ.ค.2552

นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยบวกจากการคาดการณ์ที่ว่า ภาวะเศรษฐกิจที่อ่อนแออาจทำให้เฟดตัดสินใจใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมในการประชุมครั้งหน้าซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 31 ก.ค.นี้ หลังจากที่เฟดได้ตัดสินใจขยายเวลาการใช้มาตรการ Operation Twist ไปจนถึงสิ้นปี 2555 ในการประชุมเมื่อวันที่ 20 มิ.ย.ที่ผ่านมา โดยมีเป้าหมายที่จะฉุดอัตราดอกเบี้ยระยะยาวให้ปรับตัวลดลง เพื่อกระตุ้นการขยายตัวของเศรษฐกิจและการจ้างงาน

หุ้นเจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค ดีดตัวขึ้น 1.5% หุ้นแคทเตอร์พิลลาร์ ดิ่งลง 1.5% ขณะที่หุ้นไมครอน เทคโนโลยี ทะยานขึ้น 3.8% หลังจากมีรายงานว่า ไมครอน เทคโนโลยี เตรียมซื้อกิจการบริษัท เอลพิดา ซึ่งเป็นผู้ผลิตชิพของญี่ปุ่น เป็นวงเงิน 2 แสนล้านเยน หรือ 2.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

หุ้นเบสบาย พุ่งขึ้น 5.9%

นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ โดยวันอังคาร สถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) จะเปิดเผยดัชนีภาวะธุรกิจรัฐนิวยอร์กเดือนมิ.ย. และกระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยยอดสั่งซื้อของโรงงานเดือนพ.ค.

วันพฤหัสบดี ADP Employer Services จะเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานทั่วประเทศเดือนมิ.ย., กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) จะเปิดเผยดัชนีภาคบริการเดือนมิ.ย. ส่วนวันศุกร์ กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนมิ.ย.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ