บมจ.บางจากปิโตรเลียม(BCP) เตรียมปิดเดินเครื่องโรงกลั่นน้ำมันที่ตั้งอยู่บริเวณซอยสุขุมวิท 64 ทั้งระบบเป็นเวลา 1 สัปดาห์เพื่อตรวจสอบเหตุความเสียหาย หลังจากเช้าวันนี้เกิดเพลิงไหม้หอแยกน้ำมันก๊าดในหน่วยกลั่นน้ำมันดิบที่ 3 ขนาดกำลังการผลิต 80,000 บาร์เรล/วัน โดยคาดว่าจะเปิดเดินเครื่องหน่วยกลั่นอื่นที่ไม่ได้รับความเสียหายภายในสัปดาห์หน้า พร้อมระบุมีการทำประกันเหตุอุบัติภัยไว้ครบถ้วนทุกด้านแล้ว จึงไม่น่ามีผลกระทบต่อรายได้
อย่างไรก็ตาม กระทรวงอุตสาหกรรมมีคำสั่งให้บริษัทปิดเฉพาะหน่วยกลั่นที่เป็นจุดเกิดเหตุเป็นเวลา 30 วันเพื่อตรวจสอบอย่างละเอียด แต่บริษัทยืนยันว่าจะไม่ย้ายโรงกลั่นน้ำมันออกจากพื้นที่ดังกล่าว แม้ว่าเคยเกิดเหตุเพลิงไหม้มาแล้วก่อนหน้านี้ เพราะโรงกลั่นดังกล่าวเป็นจุดซัพพลายน้ำมันสำคัญของพื้นที่กรุงเทพและปริมณฑล อีกทั้งบริษัทได้ลงทุนไปเป็นมูลค่าสูงถึงกว่าหมื่นล้านบาท
นายอนุสรณ์ แสงนิ่มนวล กรรมการผู้จัดการใหญ่ BCP เปิดเผยว่า เหตุเพลิงไหม้เกิดขึ้นเมื่อเวลา 7.20 น.ในหน่วยกลั่นน้ำมันใช้เวลา 1 ชั่วโมงจึงสามารถควบคุมสถานการณ์ไว้ได้
จุดเกิดเหตุเป็นหน่วยกลั่นน้ำมันดิบที่ 3 ขณะนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบสาเหตุและความเสียหาย โดย BCP มีกำลังการกลั่นน้ำมันทั้งหมด 1.2 แสนบาร์เรล/วัน ปัจจุบันกลั่นอยู่ที่ 1.1 แสนบาร์เรล/วัน หลังจากเกิดเหตุได้ทำการปิดหน่วยกลั่นทั้งหมดราว 1 สัปดาห์เพื่อตรวจสอบระบบต่างๆ
ทั้งนี้ หน่วยกลั่นมี 3 หน่วยหลัก ได้แก่ หน่วยกลั่นที่ 2 มีกำลังการกลั่น 4 หมื่นบาร์เรล/วัน ,หน่วยกลั่นที่ 3 ที่ 8 หมื่นบาร์เรล/วัน และหน่วยไฮโดรแฮกเกอร์ ซึ่งแยกน้ำมันเตามาเป็นน้ำมันใสได้ 2.5 หมื่นบาร์เรล/วัน
ขณะนี้ในหน่วยกลั่นที่ 3 ที่เป็นจุดเกิดเพลิงไหม้จะต้องมีการตรวจสอบรายละเอียดอีกครั้ง เบื้องต้นหากต้องซ่อมแซมจะต้องใช้เวลา 1-2 เดือนกว่าจะเปิดได้ โดยใช้เงินราว 20-30 ล้านบาท กรณีแย่สุดเป็นการก่อสร้างใหม่ใช้เงินลงทุนกว่า 100 ล้านบาท ใช้เวลาอย่างต่ำ 3 เดือนกว่าจะเปิดใหม่ได้
นายอนุสรณ์ กล่าวว่า บริษัทยืนยันว่าเหตุการณ์ดังกล่าวจะไม่ทำให้บริษัทสูญเสียรายได้หรือกระทบต่อผลประกอบการเนื่องจากบริษัทได้ทำประกันความเสี่ยงไว้ครบหมดแล้ว อย่างไรก็ตาม หน่วยไฮโดรฯไม่สามารถนำน้ำมันเตาจากหน่วยกลั่นที่ 3 มาใช้ได้ก็จะต้องซื้อจากบริษัทอื่นจำนวน 1.5 หมื่นบาร์เรล/วัน เพื่อมากลั่นเป็นน้ำมันใส ซึ่งปัจจจุบันกลั่นน้ำมันใสอยู่ที่ 22 ล้านลิตร /วัน แบ่งเป็นดีเซล 50% เบนซิน 20% และอื่นๆ
กรณีที่ทางผู้ว่าการกรุงเทพมหานคร(กทม.) มีความเห็นว่าต้องการให้โรงกลั่นน้ำมันบางจากฯย้ายออกจากพื้นที่ เพื่อนำที่ดินดังกล่าวมาสร้างเป็นพื้นที่สีเขียวในอนาคตนั้น นายอนุสรณ์ ยืนยันว่าทางบางจากฯ ไม่มีแผนย้ายโรงกลั่นออกจากพื้นที่นี้เนื่องจากมีการลงทุนมาหลายล้านหมื่นล้านบาทแล้วและโรงกลั่นอยู่ในเมืองมีประโยชน์และสามารถจัดหาน้ำมันให้พื้นที่ในเมืองได้อย่างรวดเร็ว โดยโรงกลั่นแห่งนี้มีการจัดตั้งในพื้นที่มานานมากกว่า 50 ปี
นายวิเชียร อุษณาโชติ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ BCP กล่าวว่า ประเมินความเสียหายโรงกลั่นที่ต้องหยุดเดินเครื่องทุกส่วนที่ประมาณ 20 ล้านบาท/วัน จนกว่าจะกลับมาเดินเครื่องกลั่นน้ำมันได้อีก อย่างไรก็ตาม ความเสียหายที่เกิดขึ้นบริษัทก็ได้ทำประกันครอบคลุมไว้ทั้งหมดแล้ว จึงไม่น่าจะกระทบต่อรายได้รวมของบริษัทแต่อย่างใด
อนึ่ง โรงกลั่นน้ำมันบางจากฯ เคยเกิดเหตุเพลิงไหม้มาแล้วเมื่อวันที่ 14 ม.ค.54 ที่หน่วยปรับปรุงคุณภาพน้ำมันเตาเป็นน้ำมันดีเซลกำลังผลิต 2.5 หมื่นบาร์เรล/วัน ซึ่งสามารถควบคุมเพลิงภายใน 30 นาที เบื้องต้นสันนิษฐาน ว่าเกิดจากท่อของอุปกรณ์ควบคุมในหน่วยปรับปรุงคุณภาพน้ำมันเตาเป็นน้ำมันดีเซลรั่ว ทำให้เกิดการติดไฟ