โบรกเกอร์ส่วนใหญ่แนะ"ซื้อ"หุ้นบมจ.ซีพี ออลล์(CPALL)เป็นหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานดี จัดเป็น Growth Stock ตัวหนึ่งที่สามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง โดยคาดกำไรปีนี้จะทำสถิติสูงสุดใหม่ ซึ่งกำไรสุทธิปี 55 คาดการณ์ไว้ในช่วง 9,800-10,748 ล้านบาท เติบโตจากปีที่แล้วที่มีกำไรสุทธิ 8,008 ล้านบาท เป็นผลจากขยายสาขาใหม่กว่า 500 สาขา และยอดขายสาขาเดิมที่ทำได้ดี รวมถึงมาร์จินก็สูงขึ้นด้วยจากสินค้าประเภทเครื่องดื่มและอาหาร
สำหรับผลประกอบการงวดไตรมาส 2/55 คาดว่าจะออกมาดีต่อเนื่องจากไตรมาส 1/55 เนื่องจากในช่วงเดือนเม.ย.-พ.ค.อากาศร้อนมาก ทำให้สินค้าเครื่องดื่มขายดี ประกอบกับอยู่ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ด้วยทำให้สินค้าขายดี และในเดือนมิ.ย.มีการแข่งขันฟุตบอลยูโร สนับสนุนให้มีการบริโภคอาหารและเครื่องดื่มมากขึ้น
โบรกเกอร์ คำแนะนำ ราคาเป้าหมาย (บาท) บล.เคทีบี(ประเทสไทย) ซื้อ 46.00 บล.ไทยพาณิชย์ ซื้อ 42.00 บล.เคที ซีมิโก้ ซื้อ 42.00 บล.กรุงศรีอยุธยา ซื้อ 40.00 บล.กิมเอ็ง(ประเทศไทย) ถือ 38.00 บล.เอเชีย พลัส ถือ 36.00
นายปริญทร์ กิจจาทรพิทักษ์ ผู้บริหารสายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์และกลยุทธ์การลงทุน บล.เคทีบี (ประเทศไทย) ให้เหตุผลว่า ในปีนี้กำไรของ CPALL คาดว่าจะทำระดับสูงใหม่ จากการขยายสาขาที่มั่นใจว่าทำได้ตามเป้าหมายได้อยู่แล้ว โดยปีหนึ่ง CPALL จะมีการขยายสาขา 500-550 สาขา และ CPALL ยังสามารถรักษาระดับยอดขายต่อสาขาเดิมได้ดีด้วย รวมถึงมีมาร์จินที่ดี โดยมีการเพิ่มสัดส่วนในธุรกิจอาหารมากขึ้น
สำหรับผลประกอบการงวดไตรมาส 2/55 ก็คาดว่าจะออกมาดีใกล้เคียงกับไตรมาส 1/55 ซึ่งทำได้ดีมากเนื่องจากอยู๋ในช่วงเทศกาลต้นปี แต่เชื่อว่าน่าจะออกมาดีกว่างวดไตรมาส 2/54 โดยเฉพาะจากยอดขายน้ำดื่ม อันเนื่องมาจากอากาศร้อนกว่าปกติทำให้คนดื่มน้ำมากขึ้น
พร้อมคาดการณ์กำไรสุทธิปี 55 ที่ 10,333 ล้านบาท เติบโต 29% จากปีที่แล้วที่มีกำไรสุทธิ 8,008 ล้านบาท
ด้านนายกวี มานิตสุภวงษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เอเซีย พลัส กล่าวว่า CPALL เป็นหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานดี จัดเป็น Growth Stock ได้ตัวหนึ่ง แต่ที่แนะนำแค่"ถือ"เป็นเพราะราคาปัจจุบันได้ขึ้นมาสะท้อนพื้นฐานที่ควรจะเป็นในปีนี้แล้ว แต่หากมองระยะยาวก็สามารถที่จะลงทุนได้ เนื่องจาก CPALL สามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง
ปีนี้คาดว่ากำไรสุทธิจะอยู่ที่ 10,748 ล้านบาท เติบโต 34% จากปีที่แล้ว(2554)อันเนื่องมาจากการขยายสาขาใหม่กว่า 500 สาขา และจากสาขาเดิมที่มียอดขายโตประมาณ 7% ซึ่งปีนี้มองว่ายอดขายของ CPALL ดีอย่างต่อเนื่อง และมาร์จินก็สูงขึ้นด้วยจากสินค้าประเภทเครื่องดื่มและอาหาร
สำหรับผลประกอบการงวดไตรมาส 2/55 คาดว่าจะออกมาดีต่อเนื่องจากไตรมาส 1/55 เนื่องจากในช่วงเดือนเม.ย.-พ.ค.อากาศร้อนมาก ทำให้สินค้าเครื่องดื่มขายดี ประกอบกับอยู่ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ และในเดือนมิ.ย.ก็เป็นช่วงการแข่งขันฟุตบอลยูโร ช่วยสนับสนุนให้คนกิน-ดื่มกันมากขึ้น
ส่วน น.ส.สุทธาทิพย์ พีรทรัพย์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง(ประเทศไทย) กล่าวว่า ราคาหุ้น CPALL ปัจจุบันเมื่อเทียบกับราคาเป้าหมายที่ให้ไว้ที่ 38 บาท/หุ้น เหลือ upside ไม่มาก แต่โดยปัจจัยพื้นฐานยังดีอยู่ รายได้และกำไรมีการเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง ผลประกอบการงวดไตรมาส 2/55 ก็ยังคงเติบโตได้ดีอย่างต่อเนื่องจากการขยายสาขาใหม่และสาขาเดิม
พร้อมคาดการณ์กำไรสุทธิปี 55 ไว้ที่ 9,800 ล้านบาท เติบโต 23% จากปี 54 ส่วนอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล(Divident Yield)ปีนี้คาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 2% ซึ่งเป็นไปตามปกติและไม่ได้จ่ายสูงมาก เนื่องจาก CPALL จำเป็นจะต้องนำเงินไปใช้หมุนเวียนในธุรกิจ และขยายสาขา