นายไชยยันต์ ชาครกุล ประธานกรรมการบริหาร บมจ.ลลิล พร็อพเพอร์ตี้(LALIN)เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้ในช่วง 3 ปีข้างหน้าเติบโตเฉลี่ยปีละไม่ต่ำกว่า 15% ใกล้เคียงกับอัตราเติบโตในปีนี้ที่คาดว่าจะมีรายได้ 2,150 ล้านบาท สูงขึ้น 15% จากปีก่อน ขณะที่ยอดขายคาดไว้ที่ 2,550 ล้านบาท
ล่าสุด บริษัทฯ ได้แต่งตั้งให้ บล.เอเซีย พลัส(ASP) เป็นผู้จัดจำหน่ายหุ้นกู้ อายุ 3 ปี มูลค่า 700 ล้านบาท เพื่อเสนอขายต่อนักลงทุนสถาบัน และ/หรือนักลงทุนรายใหญ่ เพื่อนำมารองรับการขยายธุรกิจของบริษัท โดยบริษัทมีแผนที่จะเปิดโครงการใหม่ในปีนี้ไม่ต่ำกว่า 6 - 8 โครงการ แบ่งเป็นโครงการแนวราบจำนวน 2-3 โครงการ, คอนโดมิเนียม 2-3 โครงการ
พร้อมกันนั้น จะมีการขยายธุรกิจไปยังต่างจังหวัดที่มีศักยภาพ ทั้งในภาคตะวันออก อาทิ จังหวัดชลบุรี ระยอง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อาทิ ขอนแก่น อุดรธานี นครราชสีมา อุบลราชธานี เป็นต้น อีกอย่างน้อย 3-4 โครงการภายในปีนี้
บริษัทฯได้มีการปรับกลยุทธ์เพื่อรองรับการแข่งขันให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น โดยแบ่งการบริหารงานออกเป็น SBU1(Brand เดิม ลลิล กรีนวิลล์, บ้านลลิล และบ้านบุรีรมย์)และ SBU2( บ้าน Lanceo, ทาวน์โฮม LIO, และ คอนโดมิเนียม LEVO) ทำให้บริษัทมีความคล่องตัว และสามารถเน้น Target Customer ได้ชัดเจนยิ่งขึ้น ส่งผลให้บริษัทสามารถตอบสนองผู้บริโภคได้อย่างรวดเร็ว และเข้าถึงความต้องการของทุกกลุ่ม โดยมีแผนจะขยายธุรกิจให้ครอบคลุม Segment ตลาดที่กว้างมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นตลาดกลาง-บน กลางล่าง-ล่าง ฯลฯ
ณ สิ้นไตรมาส 1/55 บริษัท มีอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E Ratio) อยู่ที่ 0.31 เท่า ในขณะที่ค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรมอยู่ในระดับประมาณ 1.35 เท่า ซึ่งแม้ภายหลังการออกหุ้นกู้ D/E Ratio ของบริษัทจะยังคงอยู่ในช่วงเพียง 0.4-0.5 เท่า ซึ่งยังคงต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรมค่อนข้างมาก