นายอดิเรก ศรีประทักษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานคณะผู้บริหาร บมจ.เจริญโภคภัณฑ์อาหาร(CPF)เปิดเผยว่า บริษัทยังคงเป้าการเติบโตใน 5 ปีข้างหน้า ด้วยยอดขายที่ 600,000 ล้านบาท ภายใต้การเติบโตที่ปีละ 10-15% ตามเป้าหมายเดิมที่ได้วางไว้ โดยเชื่อว่าเหตุการณ์ไข้หวัดนกสายพันธุ์ใหม่ 2009 ที่กำลังระบาดในเม็กซิโกและจีนนั้น ไม่ได้ส่งผลผลกระทบต่อซีพีเอฟแต่อย่างใด
โดยเฉพาะในประเทศจีน เพราะธุรกิจหลักคือธุรกิจอาหารสัตว์ไม่ใช่ธุรกิจการเลี้ยงสัตว์หรือฟาร์มไก่ นอกจากนี้ ในช่วงที่ผ่านมามีการรายงานถึงสถานการณ์ไข้หวัดนกผ่านสื่อต่างๆออกมาเป็นระยะๆ อย่างต่อเนื่อง จึงไม่จัดเป็นเหตุการณ์วิกฤตที่ทำให้ผู้บริโภคตื่นตระหนก ในทางตรงกันข้าม กลับนับเป็นเรื่องปกติที่สามารถรับรู้และแยกแยะข้อมูลได้
ส่วนกรณีสหภาพยุโรป (อียู)จะตัดสิทธิประโยชน์ทางการค้า หรือ GSP ในสินค้าหลายประเภท ซึ่งรวมถึงสินค้ากุ้งแปรรูปส่งออกของประเทศไทย โดยอาจต้องเสียภาษีที่สูงขึ้นจาก 7% เป็น 20% คาดว่าจะมีผลทางปฏิบัติในเดือน ม.ค.57 หรือในอีก 18 เดือนข้างหน้า โดย CPF ส่งออกกุ้งคิดเป็นมูลค่า 1,000 ล้านบาทต่อปี ซึ่งได้มีการปรับกลยุทธ์เตรียมรับมือไว้แล้ว โดยจะใช้ฐานการส่งออกจากประเทศมาเลเซีย และเวียดนามทดแทนเป็นหลัก เพื่อลดผลกระทบโดยตรงจากการส่งออก
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ภาครัฐได้มีการวางแผนเข้ามาดูแลและแก้ไขปัญหาอย่างเป็นระบบ โดยเฉพาะการเปิดเจรจาเอฟทีเอ กับอียู เช่นเดียวกันกับที่ทางประเทศมาเลเซียเคยใช้แนวทางนี้และสามารถแก้ไขปัญหาดังกล่าวสิ้นสุดลง
นายอดิเรก กล่าวด้วยว่า จากภาวะราคาเนื้อสัตว์ที่ตกต่ำที่เกิดตั้งแต่ช่วงไตรมาส 4/54 และยังตกต่ำต่อเนื่องมาถึงช่วงกลางปี 55 เชื่อว่าจะคลี่คลายลงในช่วงครึ่งปีหลังนี้ เนื่องจากการปรับกำลังการผลิตและกำลังซื้อของผู้บริโภคที่น่าจะดีกว่าครึ่งปีแรก ซึ่งจะส่งผลให้ราคาเนื้อสัตว์ปรับตัวสูงขึ้นตามไปด้วย โดยภาวะราคาที่ลดลงข้างต้นส่งผลกระทบเพียงในระยะสั้น และน่าจะคลี่คลายในที่สุด