บมจ.เซ็นทรัลพัฒนา(CPN) มั่นใจว่ารายได้ในปี 55 จะทำสถิติสูงสุดในรอบ 5 ปี เป็นผลจากกำลังซื้อในประเทศปรับตัวดีขึ้น ประกอบกับ บริษัทมีศูนย์การค้าเพิ่มขึ้น และสามารถเปิดทำการได้ครบสมบูรณ์ทุกสาขา ทำให้สร้างรายได้เข้ามาได้เต็มที่ พร้อมกันนั้น ในเดือนหน้าบริษัทยังเตรียมยื่นแบบข้อมูลไฟลิ่งต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.)เพื่อจัดตั้งกองทุนอสังหาริมทรัพย์ใหม่ภายในปีนี้ ซึ่งจะมีการขายอาคารสำนักงานเข้าเป็นสินทรัพย์ของกองทุนมูลค่าราว 5 พันล้านบาท
ขณะที่บริษัทบริษัทได้ตัดสินใจเลื่อนแผนการเปิดศูนย์การค้าแห่งใหม่ในประเทศจีนออกไปก่อน เนื่องจากเศรษฐกิจของจีนมีแนวโน้มชะลอตัว ส่วนแผนการตั้งศูนย์การค้าในประเทศเวียดนามยังอยู่ระหว่างการศึกษา
นายนริศ เชยกลิ่น รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการเงินและบัญชี CPN กล่าวว่า รายได้และกำไรสุทธิปีนี้จะทำสถิติสูงสุดในรอบ 5 ปี คาดว่าจะมีรายได้เติบโตไม่ต่ำกว่า 25% จากปีก่อน หลังภาพรวมเศรษฐกิจเติบโตได้ดีขึ้น ขณะที่อัตราค่าเช่าโดยรวมสูงขึ้น จำนวนลูกค้าที่ใช้บริการศูนย์การค้าแต่ละแห่งดีขึ้น หลังทุกศูนย์การค้าในเครือกลับเปิดให้บริการตามปกติ
"รายได้และกำไรปีนี้จะดีสุดในรอบ 5 ปี ถ้าไม่นับรวมรายการพิเศษ ปีนี้อัตราค่าเช่าเพิ่มขึ้น คนใช้บริการสูง ตอนนี้ทุกศูนย์เปิดบริการตามปกติ โดยเฉพาะที่เซ็นทรัลเวิลด์และเซ็นทรัลลาดพร้าวดีมาก เซ็นทรัลเวิลด์ปรับส่วนลดค่าเช่าลดลง ตอนนี้ศูนย์ที่เปิดมาแล้ว 2 ปีไม่น่าเป็นห่วง ยังไปได้ดีทั้งที่พัทยาบีช ขอนแก่น ชลบุรี และพระราม 9 ก็ค่อยๆดีขึ้น" นายนริศ กล่าว
ทั้งนี้ ภายในปี 58 บริษัทจะมีศูนย์การค้าเพิ่มเป็น 30 แห่งภายในปี 58 ตามแผนที่วางไว้ โดยปี 56 จะเปิดศูนย์การค้าแห่งใหม่ที่ จ.อบุลราชธานี และศูย์การค้า แห่งที่ 2 ที่ จ.เชียงใหม่ ส่วนการพัฒนาโครงการบริเวณสวนลุมไนซ์พลาซ่าเดิม ขณะนี้อยู่ระหว่างส่งมอบพื้นที่ นายนริศ กล่าวว่า บริษัทยังได้ตั้งงบลงทุน 7-8 พันล้านบาท เพื่อเปิดศูนย์การค้าในต่างประเทศช่วงปี 56-58 หรือใช้เงินลงทุนเฉลี่ย 2 ล้านบาท/ปี โดยจะเน้นการลงทุนที่รองรับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน(AEC)ในปี 58 ขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาโอกาสทางธุรกิจในมาเลเซีย อินโดนีเซีย พม่า และเวียดนาม คาดว่าภายในปีหน้าจะมีข้อสรุปการลงทุนอย่างน้อย 1 ประเทศ
ส่วนการลงทุนในประเทศจีนเลื่อนออกไปก่อน เนื่องจากเศรษฐกิจของจีนมีแนวโน้มชะลอตัว แต่ยังคงรักษาความสัมพันธ์กับพันธมิตรจากจีนเอาไว้เผื่อแผนงานในอนาคต
"ตลาด AEC น่าจะรู้จักแบรนด์เซ็นทรัลพลาซ่าและโรบินสันเป็นอย่างดี เป็นแบรนด์ที่มีศักยภาพที่จะเข้าไปทำตลาดในประเทศต่างๆได้ คิดว่าปีหน้าจะได้เห็นความชัดเจนเรื่องการลงทุนต่างประเทศ 1 แห่ง"นายนริศ กล่าว
สำหรับการจัดตั้งกองทุนอสังหาริมทรัพย์ บริษัทเตรียมยื่นไฟลิ่งอีกครั้งในเดือน ส.ค. หลังจากก่อนหน้าได้ยื่นไฟลิ่งจัดตั้งกองทุนเมื่อง มิ.ย.แต่ขอถอนไฟลิ่งออก โดยบริษัทจะนำอาคารสำนักงานให้เช่าที่เซ็นทรัลเวิลด์ มูลค่า 5 พันล้านบาท ขายเข้าเป็นสินทรัพย์กองทุน โดยอาคารฯดังกล่าวสร้างรายได้ค่าเช่า 500 ล้านบาท/ปี
นอกจากนี้บริษัทยังอยู่ระหว่างการศึกษานำทรัพย์สินอื่นขายเข้ากองทุนด้วย
"กองทุนอสังหาฯน่าจะยื่นไฟลิ่งใหม่ได้ในเดือนหน้า หลังถอนออกมาก่อน ซึ่งไม่มีปัญหาอะไร ตัวหลักการทุกอย่างโอเคแล้ว เพียงแค่ปรับปรุงรายละเอียดทรัพย์สินเล็กน้อย น่าจะจัดตั้งกองทุนได้ในปีนี้ ส่วนมูลค่ากองทุนอยู่ระหว่างประเมิน"นายนริศ กล่าว