นายธนินท์ เจียรวนนท์ ผู้บริหารเครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) กล่าวว่า ขณะนี้เครือซีพีอยู่ระหว่างศึกษาการเข้าซื้อธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจอาหารทั้งในยุโรปและสหรัฐอเมริกา เพราะเห็นเป็นโอกาสที่ทั้งสองทวีปเกิดวิกฤตเศรษฐกิจ ทำให้ราคาสินทรัพย์ปรับตัวลดลงมาค่อนข้างมาก คาดว่าจะได้ข้อสรุปในปีหน้า
"การเข้าไปซื้อกิจการเพราะต้องการมีเครือข่ายและมีแบรนด์ในตลาดนั้นๆ เพื่อนำสินค้าอาหารจากไทยเข้าไปซื้อขายในยุโรปและสหรัฐฯง่ายขึ้น เรามองทุกเจ้าที่มีโอกาส ตอนนี้เราเข้าไปหาข้อมูลเรื่อยๆ และศึกษาวิเคราะห์ คิดว่าปีหน้าน่าจะสรุปได้" นายธนินท์ กล่าว
นอกจากนี้ นายธนินท์ ยอมรับว่า สนใจซื้อกิจการห้างคาร์ฟูร์ของฝรั่งเศส ซึ่งเป็นห้างค้าปลีกขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก เนื่องจากมูลค่าตลาดปัจจุบันปรับลดลงไปมากจากผลกระทบวิกฤติเศรษฐกิจในยุโรป เช่นเดียวกับบริษัท สมิทฟิลล์ ซึ่งดำเนินธุรกิจการเกษตรในสหรัฐ ที่มูลค่าตลาดลงเหลือ 1 หมื่นล้านเหรียญ
ดังนั้น เครือซีพีจึงมองเห็นเป็นโอกาสที่จะเข้าซื้อกิจการ โดยขณะนี้อยู่ระหว่างศึกษาการลงทุนดังกล่าว
"ตอนนี้เศรษฐีฮ่องกงเองก็วิ่งเต้นจะซื้อบริษัทที่มี trade mark แต่คงไม่ใช่ปีนี้"นายธนินท์ กล่าว
ส่วนการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของยุโรปนั้น นายธนินท์ มองว่า ยังต้องใช้เวลาอีกวักระยะหนึ่ง พร้อมแนะนำว่ายุโรปไม่ควรใช้มาตรการรัดเข็มขัด แต่ควรยืดหนี้ สร้างธุรกิจ และสร้างงาน เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจให้ฟื้นกลับมาขยายตัวได้อีกครั้ง