ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ร่วงลง เนื่องจากการลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางยุโรปและธนาคารกลางจีนไม่สามารถสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนได้ว่า ความเคลื่อนไหวดังกล่าวจะเพียงพอที่จะกระตุ้นการขยายตัวของเศรษฐกิจ
ดัชนี MSCI Asia-Pacific (MXAP) อ่อนตัว 0.2% แตะ 118.82 เมื่อเวลา 9.53 น.ตามเวลากรุงโตเกียว
ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 9,052.70 จุด ลดลง 27.10 จุด ขณะที่ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 19,752.83 จุด ลดลง 56.30 จุด ส่วนดัชนีคอมโพสิตตลาดหุ้นโซลเปิดวันนี้ที่ 1,877.74 จุด เพิ่มขึ้น 2.25 จุด ดัชนีเวทเต็ดตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 7,392.78 จุด เพิ่มขึ้น 5.00 จุด ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,616.03 จุด เพิ่มขึ้น 1.60 จุด และดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียเปิดวันนี้ที่ 4,169.10 จุด ลดลง 0.10 จุด
หุ้นแคนนอน ร่วง 2% ส่วนหุ้นบีเอชพี บิลลิตัน อ่อนตัว 0.9% เนื่องจากนักลงทุนได้เทขายหุ้น ขณะที่หุ้นพาร์โค พุ่ง 3.5% ในตลาดหุ้นโตเกียว
ธนาคารกลางจีนประกาศลดอัตราดอกเบี้ยเงินฝากระยะ 1 ปี ลง 0.25% และอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ระยะ 1 ปี ลง 0.31% โดยมีผลตั้งแต่วันศุกร์นี้ สำนักข่าวซินหัวรายงาน
ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) มีมติลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 0.75% ในการประชุมเมื่อวานนี้ ขณะที่ประธานอีซีบีออกแถลงการณ์ภายหลังการประชุมในวันนี้ว่า ความเสี่ยงที่จะทำให้เศรษฐกิจในยูโรโซนเผชิญกับภาวะขาลงนั้น เริ่มปรากฎชัดขึ้น ขณะที่อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจของยูโรโซนยังคงอ่อนแอ และความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจยังคงส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นและภาวะการลงทุนในตลาด
ธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) มีมติตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 0.5% ในการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (MPC) เมื่อวานี้ พร้อมประกาศขยายมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) อีก 5 หมื่นล้านปอนด์ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งเป็นไปตามความคาดหมายของนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่
ทั้งนี้ นับเป็นเวลากว่า 3 ปีแล้วที่ธนาคารกลางอังกฤษตัดสินใจคงดอกเบี้ยที่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ โดยแบงก์ชาติอังกฤษได้ลดดอกเบี้ยลงสู่ระดับ 0.5% เมื่อเดือนมีนาคม 2552 และได้คงไว้ที่ระดับดังกล่าวมานับตั้งแต่นั้น