ราคาหุ้น SCC ลดลง 2 บาท หรือ 0.62% มาที่ 320 บาท เมื่อเวลา 10.03 น. จากราคเปิด 319 บาท โดยราคาสูงสุดที่ 320 บาท และราคาต่ำสุดที่ 318 บาท
ทั้งนี้ โบรกเกอร์คาด บมจ.ปูนซิเมนต์ไทย (SCC) กำไรในไตรมาส 2/55 ลดลง จากธุรกิจปิโตรเคมี แต่จะพลิกฟื้นในครึ่งปีหลังจึงยังคงคำแนะนำ"ซื้อ" แม้ปรับลดมูลค่าเหมาะสมลงก็ตาม
บล.ทรีนิตี้ คาดกำไรไตรมาสสองจะทรุดหนักเหลือเพียง 4,250 ล้าน (-29%qoq, -43%yoy)เนื่องจากถูกแรงฉุดสำคัญในธุรกิจปิโตรเคมี ที่คาดว่าจะขาดทุนเท่ากับ 916 ล้านบาท จากราคาวัตถุดิบ และผลิตภัณฑ์ ได้ทรุดลงอย่างหนัก ตามราคาน้ำมันดิบทำให้เกิดผลขาดทุนในสต็อกประมาณ 1,500 ล้านบาท และ ผลกระทบจาก BSTถูกเพลิงไหม้ประมาณ 700 ล้านบาท
ในขณะที่ธุรกิจปูนซีเมนต์และวัสดุก่อสร้างคาดจะยังเติบโต ส่วนธุรกิจกระดาษชะลอตัวเล็กน้อย และ มีปันผลจากบริษัทอื่นเข้ามาช่วยประมาณ 2 พันล้านบาท
คาดครึ่งปีหลังจะฟื้นตัวชัดเจน แนวโน้มในระยะยาวมีศักยภาพเติบโตสูง จากเงินสดในมือ และ กระแสเงินสดจากการดำเนินงานสูง มีการขยายลงทุนอย่างต่อเนื่อง ตั้งเป้าลงทุน 1.5 แสนล้านบาทใน5 ปีนี้ คงคำแนะนำ ซื้อ ในลักษณะลงทุน ประเมินราคาเป้าหมาย 390 บาท
ส่วนบล.เกียรตินาคิน คาด SCC จะมีผลประกอบการที่อ่อนแอใน Q2/55 จากการการปรับลงของราคาน้ำมันซึ่งมีผลต่อระดับสินค้าคงคลังที่มีต้นทุนสูง ทำให้มี Stock loss ในไตรมาสนี้ราว 2.5 พันล้านบาท รวมถึงความเสียหายจากโรงงานไฟไหม้ของบริษัทลูกที่ระยอง ทำให้มีค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นราว 1 พันล้านบาท ในขณะที่รายได้จะปรับลดลงเมื่อเทียบกับรายไตรมาสเนื่องจากวันหยุดในเดือน เม.ย.- พ.ค.
โดยเราประมาณการรายได้ใน Q2/55 ที่ 1 แสนล้านบาท ลดลง 3% QoQ แต่เพิ่มขึ้น7% YoY แต่ มีกำไรสุทธิโดยรวมลดลงเป็น 4.4 พันล้านบาท ปรับลด 26% QoQ และลดลง 41% YoY
ผลจากการบันทึก Stock loss ที่เกิดขึ้น รวมถึงค่าเสียหายจากโรงงานไฟใหม้ มีผลทำให้เราปรับประมาณการกำไรสุทธิของ SCC ลง 11% เป็น 3.1 หมื่นล้านบาท ในขณะที่ยังคงรายได้เดิมที่ 4 แสนล้านบาท ทำให้มีราคาที่เหมาะสม 350 บาท จากเดิม 386 บาท (อ้างอิง APER 13 เท่า)