นายทรงวุฒิ อภิรักษ์ขิต กรรมการผู้จัดการ บมจ.โกลเบล็ก โฮลดิ้ง แมนเนจเม้นท(GBX)เปิดเผยกับ"อินโฟเควสท์"ว่า ผลการดำเนินงานของบริษัทฯในช่วงครึ่งแรกปีนี้(H1/55)อยู่ในทิศทางที่ทรงตัว เนื่องจากธุรกิจหลักทรัพย์มีการแข่งขันที่สูงขึ้นจากการเปิดเสรีฯ ทำให้ลูกค้าสามารถต่อรองค่าบริการและค่าธรรมเนียมได้ และบริษัทฯยังมีการออกโปรโมรชั่นต่าง ๆ มากมาย ขณะที่ส่วนแบ่งการตลาดธุรกิจหลักทรัพย์(มาร์เก็ตแชร์)อยู่ที่กว่า 2%
ส่วนธุรกิจค้าทองคำ บริษัทฯยังคงทำยอดขายได้ตามเป้าหมายที่ 2,000 ล้านบาท/เดือน แต่ทิศทางของทองคำในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมาเห็นได้ว่าเป็นการแกว่งตัวไซด์เวย์แถว 1,525-1,620 ดอลลาร์/ออนซ์ ทำให้นักลงทุนบางส่วนก็มีการชะลอลงทุนไป เพราะเล่นยาก แต่ยังดีที่มีลูกค้าใหม่เข้ามาเพิ่มทำให้ธุรกิจมีเสถียรภาพ "ปีที่แล้วการเทรดทองคำเล่นไม่ยาก แม้ว่าจะมีความผันผวน แต่ปีนี้จะเล่นยากเพราะทิศทางเป็นการแกว่งไซต์เวย์แถว 1,525-1,620 ดอลลาร์/ออนซ์ แกว่งอยู่อย่างนี้ขึ้น-ลงมา 3-4 รอบแล้ว แต่ผมยังโชคดีในธุรกิจทองคำ ที่มีลูกค้าใหม่เข้ามาเพิ่มขึ้นทำให้ธุรกิจมี stable มากขึ้น"นายทรงวุมิ กล่าว
อย่างไรก็ดี ในส่วนธุรกิจทองคำทางบริษัทฯยังต้องหาเครื่องมือให้นักลงทุนใช้ประกอบการเทรดทองได้สะดวกยิ่งขึ้น อย่างเช่นการที่บริษัทมีแผนจะเปิด Application บนไอโฟน-ไอเพด และระบบแอนดรอยด์เพื่อใช้เทรดทองคำ แต่ต้องรอระบบให้ stable ก่อน ปัจจุบันบริษัทฯก็ได้มีการเปิด Application ในส่วนของธุรกิจหลักทรัพย์แล้ว แต่เป็น App. ในส่วนของฐานข้อมูลให้ข้อมูลได้ติดตามได้อย่างทันเหตุการณ์
นายทรงวุฒิ กล่าวต่อว่า ธุรกิจหลักทรัพย์ในปีนี้ยังไม่ได้รุกอะไรมากนัก ตอนนี้ก็คงจะต้องทำการปรับปรุงภายในองค์กรก่อน อย่างเช่นการลดค่าใช้จ่าย(cost)ให้ได้มากที่สุด และก็กำลังหาสิ่งใหม่ ๆ เข้ามา อย่างเช่นการหาเวนเดอร์(Vendor)ซึ่งจะทำให้เกิดส่วนเพิ่มในมาร์เก็ตแชร์ เพราะตอนนี้คนจะเทรดผ่านอินเตอร์เน็ตกันมากขึ้น
ส่วนตลาด TFEX โดยรวมยังอยู่ในทิศทางที่ดี บริษัทฯยังติดอันดับ 1 มาร์เก็ตแชร์ทั้งหมดอยู่ ซึ่งปัจจุบันก็มีมาร์เก็ตแชร์ในส่วน TFEX ประมาณ 10-12%
"บริษัทฯมีแนวทางที่จะรุกตลาด TFEX อย่างเช่น ด้วยความที่เราเป็นเบอร์ 1 ในธุรกิจ TFEX คนที่จะเข้ามาลงทุนในตลาดนี้ ก็จะเลือกให้เราเป็นตัวเลือกในการเข้าตลาดนี้"นายทรงวุฒิ กล่าว
สำหรับพอร์ต Prop Trade ของบริษัทฯตอนนี้ก็ได้ปรับขนาดให้เล็กลง เนื่องจากนักลงทุนบางรายยังเล่นตลาดขาลงไม่เป็นทำให้มีการชะลอการลงทุนออกไป
*ลุ้นงบฯ H2/55 ดีขึ้น จากทิศทางทองคำชัดเจน-ธุรกิจหลักทรัพย์ฟื้นตัว
กรรมการผู้จัดการ GBX กล่าวว่า บริษัทฯคงจะต้องรอดูผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีหลัง(H2/55)ก่อน ซึ่งในส่วนของธุรกิจทองคำก็มองว่าน่าจะมีทิศทางที่ชัดเจนขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง
"ปัจจุบันราคาทองแกว่งอยู่แถว 1,525-1,620 ดอลลาร์/ออนซ์ ถ้าราคาทองสามารถยืนแถว 1,640 ได้ก็เชื่อว่าราคาทองจะต้องขึ้นแน่และไปมองอีกทีแถว 1,750 แต่หากราคาทองหลุด 1,525 ลงมาราคาทองก็มีสิทธิ์ที่จะอยู่ในระดับต่ำกว่า 1,500 แน่ และก็ต้องหันไปมองเล่นแถว 1,400 ดอลลาร์/ออซ์ อีกที"กรรมการผู้จัดการ GBX กล่าว
ส่วนธุรกิจหลักทรัพย์ ก็มองในแง่บวกว่าจะสามารถฟื้นตัวขึ้นได้ในช่วงครึ่งปีหลัง(H2/55)จากปัจจุบันบริษัทฯมีสัดส่วนรายได้จากธุรกิจทองคำ 30% และธุรกิจหลักทรัพย์ 70% ต่อไปก็เก็งว่าสัดส่วนรายได้อาจเปลี่ยนเป็นรายได้จากธุรกิจทองคำ 15% และธุรกิจหลักทรัพย์ 85% ซึ่งแต่เดิมเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมาบริษัทฯมีสัดส่วนรายได้จากธุรกิจทองคำ 10% และรายได้จากธุรกิจหลักทรัพย์ 90%
"ตอนนี้บริษัทฯยังคงเป้าหมายการเติบโตรายได้ปีนี้ไว้ที่ 20% และเป้าหมายกำไรเติบโต 15% ซึ่งบริษัทฯคงจะต้องเร่งผีเท้าในช่วงครึ่งปีหลัง(H2/55)โดยเร็ว"กรรมการผู้จัดการ GBX กล่าว
*ยังเปิดรับพาร์ทเนอร์ใหม่/ปิดประตูเข้าตลาดฯ
กรรมการผู้จัดการ GBX กล่าวว่า ในส่วนของบริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก มาจนถึงวันนี้ก็ยังไม่มีแผนที่จะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ แต่ยังคงเปิดโอกาสให้บริษัทฯสามารถมีพันธมิตรใหม่เข้ามาร่วมลงทุน และร่วมมือทางธุรกิจ แต่ปัจจุบันบริษัทฯก็ยังไม่ได้มีการเจรจาอะไรกับใคร
"ตอนนี้เราไม่คุยแล้วเรื่องเข้าตลาดฯ จบเรื่องเข้าตลาดฯไปเลย แต่ยัง open อยู่ในเรื่องของการหาพาร์ทเนอร์ ทางกลุ่มฯยินดี ถ้ามีใครสนใจเข้ามาร่วมธุรกิจ ซึ่งผู้ถือหุ้นใหญ่ก็ยังคงถือหุ้นใหญ่อยู่ต่อไปหากจะมีพาร์ทเนอร์เข้ามาร่วมลงทุนด้วย ไม่เพียงเท่านั้นเราเองก็อยากจะไปลงทุนของเขาเหมือนกัน...
เท่าที่ดูนักลงทุนที่เข้ามาลงทุนในประเทศไทยหวังที่จะเทคโอเวอร์ทั้งหมดเลย แต่บริษัทฯยังไม่อยากไปทางนั้น เพราะอยากที่จะให้บริษัทนี้เป็นของคนไทยมากกว่า"กรรมการผู้จัดการ GBX กล่าว
*ราคาหุ้นยัง Under Value ต่ำกว่า BV. ที่มี 1.16-1.17 บ.
อย่างไรก็ดี บริษัทฯก็ถือได้ว่ามีอัตราการจ่ายเงินปันผล(Divident Yield)ที่ดีประมาณ 6% และบริษัทฯก็ไม่ค่อยจะมีหนี้สิน ซึ่งหนี้ส่วนใหญ่ของบริษัทฯจะเป็นหนี้สินระยะสั้นมาก ๆ ส่วนหนี้ระยะยาวไม่มีเลย
"หุ้นไทยเป็นลักษณะแบบไทยมุง วันนี้คนไปมุงกันตัวไหนก็จะไปมุงด้วย แต่หุ้นที่ถูกมุงก็มีความเสี่ยงอยู่เหมือนกัน นักลงทุนจะต้องระวังการลงทุนด้วย"นายทรงวุฒิ กล่าว