บมจ.จีเอฟพีที(GFPT)ผู้ผลิตและส่งออกไก่รายใหญ่วางแผนลงทุน 3 ปี(ปี 56-58) ขยายฟาร์มเลี้ยงไก่ไปถึง 3 แสนตัว/วัน จากปัจจุบันฟาร์มเลี้ยงไก่มีจำนวน 2.5 แสนตัว/วัน ด้วยงบลงทุนประมาณ 1,500 ล้านบาท และขยายไลน์การผลิตไก่ปรุงสุก พร้อมกับการขยายตลาดส่งออก เพื่อสร้างการเติบโตของรายได้อย่างต่อเนื่องปีละ 5-10% โดยคาดว่าจะทำรายได้สูงขึ้นแตะ 2 หมื่นล้านบาทภายในปี 58
นางสาวจุฑามาส อิงโพธิ์ชัย ผู้จัดการนักลงทุนสัมพันธ์ GFPT กล่าวกับ"อินโฟเควสท์"ว่า บริษัทจะขยายฟาร์มเลี้ยงไก่เพื่อให้ได้ผลผลิตเพิ่มขึ้นเป็น 3 แสนตัว/วัน จากปัจจุบันอยู่ที่ 2.5 แสนตัว/วัน ภายใน 3 ปีข้างหน้า ลงทุนราว 1.5 พันล้านบาท ซึ่งจะแบ่งเป็นเฟส โดยเฟสแรกขยาย 2.5 หมื่นตัว/วันในปี 56 จากนั้นในปี 57 จะลงทุนเฟส 2 ขยายอีก 2.5 หมื่นตัว/วัน ในพื้นที่ อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี
"ในช่วง 3 ปีข้างหน้า เราตั้งเป้าจะมีรายได้เติบโตปีละ 5-10% ต่อปี ไปถึง 2 หมื่นล้านบาท"นางสาวจุฑามาส กล่าว
นอกจากนี้ บริษัทจะเพิ่มไลน์การผลิตไก่ปรุงสุก อีก 1 ไลน์ ภายใต้การบริหารงานของบริษัท จีเอฟพีที นิชิเร (ประเทศไทย) หรือ GFN ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุน ซึ่งจะทำให้กำลังการผลิตเพิ่มเป็น 2,000 ตัน/เดือน จากปัจจุบันผลิตได้ 1,500 ตัน/เดือน เพื่อผลักดันการปริมาณการส่งออกไก่ปรุงสุกทำได้มากขึ้น
ทั้งนี้ GFPT ได้ส่งไก่เป็นให้กับโรงงานของ GFN ประมาณ 1 แสนตัว/วัน และหาก GFN มีการขยายกำลังการผลิตก็จะส่งผลต่อยอดขายไก่เป็นให้เพิ่มมากขึ้น
นางสาวจุฑามาส คาดว่า ในปี 55 ยอดขายหรือรายได้จากการขายรวมจะเติบโต 10-15% มาที่ 1.5-1.6 หมื่นล้านบาท จากปีก่อนอยู่ที่ 1.4 หมื่นล้านบาท โดยราคาไก่เป็นเฉลี่ยอยู่ที่ 38 บาท/กก.ต่ำกว่าปีก่อนที่มีราคาเฉลี่ย 45 บาท/กก.อีกทั้งปีนี้ค่าแรงปรับขึ้นมาก รวมทั้งวัตถุดิบอาหารสัตว์ก็เพิ่มสูงขึ้นด้วย ทำให้อัตรากำไรขั้นต้น(มาร์จิ้น)ในปีนี้น่าจะลดลงเหลือ 10% จากปีก่อนที่ทำได้ 15%
อย่างไรก็ตาม บริษัทมองแนวโน้มรายได้ของบริษัทในปีนี้ยังเป็นทิศทางการเติบโต โดยในไตรมาส 2/55 จะออกมาดีกว่าไตรมาส 2/54 ประมาณ 10% จากการที่บริษัทได้เพิ่มกำลังการผลิตไก่ปีนี้ 10-20% ขณะที่ต้นทุนสูงขึ้นทั้งค่าค่าแรงที่เพิ่มขึ้น 20-40% และต้นทุนวัตถุดิบ ได้แก่ ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ และกากถั่วเหลืองที่ปรับราคาสูงขึ้น 10-15% แต่ราคาไก่เป็นเฉลี่ยที่ 36 บาท/กก.ต่ำกว่าปีก่อนที่อยู่ในระดับเฉลี่ยที่ 45 บาท/กก. และต่ำกว่าในไตรมาส 1/55 ที่มีราคาเฉลี่ยที่ 37-38 บาท/กก.
อนึ่ง รายได้ในไตรมาส 2/54 อยู่ที่ 3.5 พันล้านบาท
"ในไตรมาส 2 นี้มีปัจจัยลบหลายตัว ทำให้รรคาไก่ตกต่ำ และความสามารถการแข่งขันอุตสาหกรรมไก่ไทยด้อยลงากค่าเรงที่เพิ่มขึ้น วัตถุดิบ ก็ทำให้ต้นทนุสูงขึ้น" นางสาวจุฑามาส
บริษัทยังคาดว่าในช่วงครึ่งปีหลัง แนวโน้มยอดขายดีกว่าครึ่งปีแรก ทั้งจากปริมาณขายในประเทศและต่างประเทศ โดยในครึ่งปีหลังจะมีปริมาณส่งออกเพิ่มมากขึ้น นอกเหนือจากที่บริษัทส่งออกไก่ปรุงสุกแล้ว และยังมีสินค้นค้าไก่สดแช่แข็งที่จะเริ่มส่งออกไปอียูปีนี้ 200-300 ตัน/เดือนในช่วงแรก และจะเพิ่มเป็น 400-500 ตัน/เดือนในปีหน้า
สำหรับยอดส่งออกปีนี้น่าจะมีปริมาณเพิ่มขึ้น 10-15% จากปีก่อนส่งออก 1,100-1,200 ตัน/เดือน เป็น 1,400-1,500 ตัน/เดือน ส่วนมูลค่าส่งออกจะเพิ่มขึ้น 5-10% โดยยอมรับว่าปีนี้ราคาส่งออกลดลงเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ราคาไก่ปรุงสุกอยู่ที่ตันละ 3,800-4,000 เหรียญสหรัฐ/ตัน ส่วนไก่สดแช่แข็งอยู่ที่ 2,800 เหรียญสหรัฐ/ตัน เนื่องมาจากราคาในประเทศลดลง
ปัจจุบัน สัดส่วนรายได้จากในประเทศ 80% และ ส่งออก 20% ตลาดหลักคืออียูและญี่ปุ่น