นายพันธ์เทพ จำรัสโรมรัน ประธานกรรมการบริหาร บมจ.ทีโอที(TOT)กล่าวว่า ในการประชุมพรุ่งนี้คณะกรรมการฯ จะพิจารณาหลักเกณฑ์การขอทำบริการขายต่อบริการ(MVNO)ในโครงการ 3จี ทีโอที ย่านความถี่ 1900 เมกะเฮิรตซ์ โดยขณะนี้ บมจ.สามารถ ไอ-โมบาย(SIM)ในเครือ บมจ.สามารถ คอร์ปอเรชั่น(SAMART)ผู้ทำตลาดเอ็มวีเอ็นโอรายเดิมได้ยื่นร่างหลักเกณฑ์การใช้ความจุของปริมาณโครงข่าย(capacity)ประมาณ 40% หรือประมาณ 3 ล้านเลขหมาย จากจำนวนเลขหมายทั้งหมด 7.2 ล้านเลขหมาย
อย่างไรก็ตาม การทำตลาด MVNO นั้น คาดว่าข้อเสนอของ SIM คือพร้อมจะวางเงินประกันขั้นต่ำประมาณ 100-500 ล้านบาทต่อปี เพื่อสร้างความมั่นใจให้ทีโอที โดยกลุ่ม SAMART ได้ระบุมาในเงื่อนไขว่าหากทีโอทีพร้อมเปิดให้บริการ 3 จีในโครงข่ายทั้งหมดที่ทำแล้วเสร็จจำนวน 5,320 สถานีฐานในเดือนพ.ย.นี้ ก็พร้อมจะให้บริการทันที ผ่าน 3จีวันเอ็กซ์ และรีแบรนด์เพื่อทำการตลาดอย่างจริงจังอีกครั้ง
ขณะที่ ผู้ให้บริการ MVNO รายย่อยอีก 4 รายนั้นยังอยู่ระหว่างเจรจากัน โดยทั้ง 4 รายยืนยันจะร่วมดำเนินธุรกิจกับทีโอทีเช่นเดิม ซึ่งขณะนี้ทีโอทีเจรจาเพื่อวางกรอบการดำเนินธุรกิจ ซึ่งจะใช้คนละเงื่อนไขกับกลุ่ม SAMART เนื่องจากมีความประสงค์ที่จะทำ MVNO ในสัดส่วนที่มากกว่ารายอื่น
สำหรับการขยายโครงข่ายในการให้บริการ 3จี ในเฟส 2 นั้น ทีโอทีจะปรับเปลี่ยนแผนเปิดประมูลเพื่อติดตั้งโครงข่ายจากเดิม 3 หมื่นสถานีฐาน และต้องใช้เงินลงทุนประมาณกว่า 3 หมื่นล้านบาท คงเหลือแค่ 1 หมื่นสถานีฐาน เพื่อให้ครอบคลุมการใช้งาน 80% ของประชากร เนื่องจากที่ผ่านมาทีโอทีมีประสบการณ์ในแผนการดำเนินงาน 3จีเฟส 1 มาแล้วว่าต้องใช้เงินลงทุนที่สูง แต่กลับมีรายได้ไม่ตรงไปตามเป้าหมาย
อย่างไรก็ตาม การปรับแผนการติดตั้งสถานีฐาน 3จีในเฟส 2 อยู่ระหว่างเจรจากับธนาคารกรุงศรีอยุธยา ในฐานะผู้อนุมัติเงินกู้ให้กับทีโอที ซึ่งเมื่อสรุปผลการเจรจาแล้วก็จะต้องนำเสนอต่อสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สภาพัฒน์) โดยคาดว่าจะสามารถเสนอเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)เห็นชอบในช่วงเดือน ส.ค.-ก.ย.55 นี้
ทั้งนี้ ในการติดตั้งสถานีฐาน 3จี นั้น ยืนยันว่า ทีโอที จะมีสถานีฐานครบ 5,320 สถานีและพร้อมเปิดใช้งานครบทั้งหมดในเดือนต.ค.55 ขณะนี้มีสถานีฐานโดยรวมแล้วประมาณ 3,200 สถานี และสามารถให้บริการได้จริง 2,300 สถานี ซึ่งเป็นสถานีฐานของทีโอทีเองจำนวน 1,000 สถานีฐาน
ปัญหาที่ไม่สามารถเปิดให้บริการได้ครบทั้ง 3,200 สถานีนั้น เนื่องจากรอการเซ็นสัญญากับกลุ่ม บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น (TRUE) จำนวนกว่า 354 สถานี สำหรับบริษัทที่ทีโอทีจะร่วมโคไซต์ที่เหลือคือ บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์เซอร์วิส (ADVANC) จำนวน 800 แห่ง เป็นต้น