ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดลบ 48.59 จุดหลังเฟดไม่ส่งสัญญาณใช้ QE3

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday July 12, 2012 06:43 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (11 ก.ค.) เนื่องจากนักลงทุนผิดหวังที่รายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ไม่ได้ส่งสัญญาณว่าเฟดจะใช้มาตรการผ่อนคลายด้านการเงินเพิ่มเติม นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับผลประกอบการของบริษัทเอกชน

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปรับตัวลง 48.59 จุด หรือ 0.38% ปิดที่ 12,604.53 จุด ดัชนี S&P 500 ลดลง 0.02 จุด ปิดที่ 1,341.45 จุด และดัชนี Nasdaq ลดลง 14.35 จุด หรือ 0.49% ปิดที่ 2,887.98 จุด

นักลงทุนผิดหวังที่รายงานการประชุมของคณะกรรมการกำหนดนโยบายของเฟด (เอฟโอเอ็มซี) ไม่ได้ส่งสัญญาณว่าจะมีการใช้มาตรการ QE3 โดยเฟดเพียงแต่ประกาศขยายเวลาการใช้มาตรการ Operation Twist ไปจนถึงสิ้นปี 2555 ในการประชุมเมื่อวันที่ 20 มิ.ย.ที่ผ่านมา

"คณะกรรมการเฟดได้ตัดสินใจขยายระยะเวลาการใช้มาตรการ Operation Twist เพื่อหนุนเศรษฐกิจให้ฟื้นตัวแข็งแกร่งขึ้น และเพื่อสร้างความเชื่อมั่นว่า อัตราเงินเฟ้อจะอยู่ในระดับที่สามารถควบคุมได้ โดยเฟดจะเข้าซื้อพันธบัตรระยะยาวของรัฐบาลสหรัฐที่มีอายุตั้งแต่ 6 ปีขึ้นไปในวงเงิน 2.67 แสนล้านดอลลาร์ และขายพันธบัตรระยะสั้นประเภทที่มีอายุไม่เกิน 3 ปีในวงเงินเท่ากัน โดยจะดำเนินมาตรการดังกล่าวไปจนถึงสิ้นปีนี้ เพื่อที่จะฉุดอัตราดอกเบี้ยระยะยาวให้ปรับตัวลดลง ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและการจ้างงานให้ขยายตัวขึ้น นอกจากนี้ ยังจะช่วยให้แรงกดดันด้านการเงินผ่อนคลายลงด้วย" เอฟโอเอ็มซีระบุ

ในการประชุมครั้งนี้ เฟดยังได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐในปีนี้ด้วย โดยคาดว่าเศรษฐกิจจะขยายตัว 1.9-2.4% ในปี 2555 ซึ่งต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้เมื่อเดือนเม.ย.ที่ 2.4-2.9% พร้อมกับคาดการณ์ว่า อัตราว่างงานจะยืนอยู่ที่ 8-8.2% ในปี 2555 ซึ่งสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้เมื่อเดือนเม.ย.ที่ระดับ 7.8-8%

นอกจากนี้ นักลงทุนยังวิตกกังวลเกี่ยวกับผลประกอบการของบริษัทเอกชน หลังจากแอดวานซ์ ไมโคร ดิไวเซส (AMD) ผู้ผลิตชิพรายใหญ่ของสหรัฐเปิดเผยว่า การชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนและยุโรปได้ส่งผลให้รายได้ไตรมาส 2 ของบริษัทหดตัวลง 11% สวนทางกับที่ AMD คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ว่าทางบริษัทจะสามารถทำกำไรเพิ่มขึ้น 3%

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ผลประกอบการที่ย่ำแย่ของ AMD ทำให้นักวิเคราะห์หลายคนคาดว่าผลประกอบการของบริษัทอื่นๆอาจจะอ่อนแอลงด้วย โดยผลสำรวจของ Standard & Poor's Capital IQ ระบุว่า นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าผลประกอบการของบริษัทที่จดทะเบียนในดัชนี S&P 500 จะปรับตัวลดลง 1% ในไตรมาสเดือนเม.ย.-มิ.ย.

หุ้นดูปองท์ ร่วงลง 1.1% หลังจากนักวิเคราะห์ปรับลดน้ำหนักความน่าลงทุนของหุ้นดังกล่าว ขณะที่ห้นกูเกิลร่วงลง 1.8% หลังจากนักลงทุนคาดว่าผลประกอบการของกูเกิลอาจจะน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้

อย่างไรก็ตาม หุ้นกลุ่มการเงินปรับฐานขึ้น นำโดยหุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา พุ่งขึ้น 2% หุ้นเจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค ดีดตัวขึ้น 1%

หุ้นกลุ่มพลังงานดีดตัวขึ้นตามราคาน้ำมันดิบ โดยหุ้นเอ็กซอน โมบิล ดีดตัวขึ้น 1.5% หุ้นเชฟรอนขยับขึ้น 0.5%

นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ โดยวันพฤหัสบดี กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และกระทรวงการคลังสหรัฐจะเปิดเผยงบประมาณของรัฐบาลกลางเดือนมิ.ย. ส่วนวันศุกร์ กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนมิ.ย. และรอยเตอร์/มหาวิทยาลัยมิชิแกนจะเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคช่วงต้นเดือนก.ค.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ