บมจ.เนาวรัตน์พัฒนาการ(NWR) ลุ้นงานใหม่ช่วงครึ่งปีหลังที่รอผลประมูลโครงการต่าง ๆ อีกกว่า 5 พันล้านบาท หากได้งานเข้ามาจะส่งผลให้ปริมาณงานในมือ(backlog)ทะลุเป้าหมายของปีนี้ หลังจากปัจจุบันทำได้ตามเป้าที่ 1.5 หมื่นล้านบาทไปแล้ว และช่วยหนุนผลประกอบการปีนี้สดใส หลังเคลียร์งานเก่าที่ขาดทุนได้หมดแล้ว และงานใหม่มีอัตรากำไรขั้นต้นดีเฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 6% ทำให้มั่นใจว่าปีนี้จะมีกำไรสุทธิดีกว่าปีก่อน
นายปสันน สวัสดิ์บุรี รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส แผนกธุรกิจใหม่และวางแผนกลยุทธ์ NWR กล่าวกับ"อินโฟเควสท์"ว่า ช่วงครึ่งปีหลังบริษัทรอผลประมูลงานต่าง ๆ ของภาครัฐ โดยในส่วนของงานใหญ่ ได้แก่ งานขยายท่าเรือแหลมฉบัง งานอุโมงค์ระบายน้ำของกรุงเทพมหานคร และ งานป้องกันน้ำท่วมของกรมโยธา
บริษัทยังคาดว่าจะได้รับงานรับเหมาช่วงภายใต้โครงการป้องกันน้ำท่วมของหน่วยงานภาครัฐอีกราว 300 ล้านบาท หลังจากได้รับเข้ามาแล้วในช่วงครึ่งปีแรก 500 ล้านบาท ซึ่งหากได้งานต่าง ๆ เพิ่มเข้ามาก็จะทำให้ backlog ปีนี้ทะลุเป้าหมาย จากปัจจุบันที่ทำได้ตามเป้าแล้ว 1.5 หมื่นล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่ 70-80% เป็นงานภาครัฐ โดยทยอยรับรู้เป็นรายได้ 18 เดือน
อนึ่ง ในวันนี้ปรากฎชื่อของ NWR เป็นหนึ่งในภาคเอกชนที่เข้าไปลงทะเบียนรับเอกสารกรอบแนวคิดงานบริหารจัดการน้ำของภาครัฐที่มีงบประมาณโครงการต่งๆ รวมกันไม่ต่ำกว่า 3.5 แสนล้านบาท
นายปสันน กล่าวอีกว่า บริษัทคาดว่ารายได้ในปีนี้จะไม่ต่ำกว่าปีก่อนที่มีรายได้ 4.4 พันล้านบาท ซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกับ Backlog ที่เพิ่มขึ้นจากสิ้นปี 54 ที่มีมูลค่า 1.1 หมื่นล้านบาท มาอยู่ที่ 1.5 หมื่นล้านบาทในขณะนี้ โดยคาดว่าในงบเฉพาะกิจการปีนี้บริษัทจะมีรายได้ 3.8 พันล้านบาท สูงขึ้นจากปีก่อนมีรายได้ 3.2 พันล้านบาท
"งานใหม่ทุกปีไม่ควรต่ำกว่า 4 พันล้านบาท เพื่อให้งานในมือไม่ให้ต่ำกว่า 1.5 หมื่นล้านบาท รายได้ก็จะรับรู้ปีละประมาณ 4 พันล้านบาท ถ้าเราทำได้ตามเป้านี้ เราเลือกงานได้มากขึ้น ทั้งนี้เราก็จะได้งานที่มีมาร์จิ้นที่ดีขึ้น" นายปสันน กล่าว
ทั้งนี้ การเติบโตของรายได้จะช่วยให้กำไรของบริษัทดีขึ้นด้วย โดยจะได้เห็นผลงานในช่วงไตรมาส 2/55 พลิกเป็นกำไร จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ยังขาดทุน 70 ล้านบาท บริษัทคาดว่าอัตรากำไรขั้นต้น (มาร์จิ้น)ในปีนี้จะทำได้เฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 6% ทำให้คาดว่ากำไรปีนี้จะดีกว่าปีที่แล้ว ยังไม่นับรวมรายการพิเศษ ที่บริษัทตั้งสำรองไว้รอผลคดี รวมมุลค่ากว่า 500 ล้านบาท
"ในอดีตงานที่ขาดทุนสะสางไปหมดแล้วและรับงานที่มีมาร์จิ้นดี แม้ว่าการแข่งขันมีอยู่แต่ความเข้มข้นน้อยว่าปีก่อนหน้า เพราะมีงานเข้ามากขึ้น ไตรมาส 3 น่าจะดีขึ้นเรื่อยๆ คือผลประกอบการจะค่อยๆไต่ขึ้น มาร์จิ้นปีนี้ไม่น่าจะติดลบ"นายปสันน กล่าว
อย่างไรก็ตาม ค่าแรงขั้นต่ำที่ปรับตัวขึ้นและราคาวัสดุก่อสร้งเพิ่มขึ้น จะทำให้ต้นทุนสูงขึ้น แต่ได้รวมกับมุลค่างานใหม่ ทำให้ไม่กระทบมาร์จิ้น