ตลาดหุ้นยุโรปปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (12 ก.ค.) เนื่องจากนักลงทุนผิดหวังที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ไม่ได้ส่งสัญญาณการใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณรอบที่ 3 (QE3) ในรายงานการประชุมครั้งที่ผ่านมา
ดัชนี Stoxx Europe 600 Index (SXXP) ร่วงลง 1.1% ปิดที่ 252.89 จุด
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 6,419.35 จุด ลดลง 34.50 จุด ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 3,135.18 จุด ลดลง 22.07 จุด ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 5,608.25 จุด ลดลง 56.23 จุด
ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นยุโรปซบเซาลงเนื่องจากนักลงทุนผิดหวังที่รายงานการประชุมของคณะกรรมการกำหนดนโยบายของเฟด (เอฟโอเอ็มซี) ไม่ได้ส่งสัญญาณว่าจะมีการใช้มาตรการ QE3 โดยเฟดเพียงแต่ประกาศขยายเวลาการใช้มาตรการ Operation Twist ไปจนถึงสิ้นปี 2555 ในการประชุมเมื่อวันที่ 20 มิ.ย.ที่ผ่านมา ด้วยการเข้าซื้อพันธบัตรระยะยาวของรัฐบาลสหรัฐที่มีอายุตั้งแต่ 6 ปีขึ้นไปในวงเงิน 2.67 แสนล้านดอลลาร์ และขายพันธบัตรระยะสั้นประเภทที่มีอายุไม่เกิน 3 ปีในวงเงินเท่ากัน
นอกจากนี้ ในการประชุมดังกล่าว เฟดยังได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐในปีนี้ด้วย โดยคาดว่าเศรษฐกิจจะขยายตัว 1.9-2.4% ในปี 2555 ซึ่งต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้เมื่อเดือนเม.ย.ที่ 2.4-2.9% พร้อมกับคาดการณ์ว่า อัตราว่างงานจะยืนอยู่ที่ 8-8.2% ในปี 2555 ซึ่งสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้เมื่อเดือนเม.ย.ที่ระดับ 7.8-8%
หุ้นเทเมนอส กรุ๊ป ทรุดฮวบลง 28% สู่ระดับ 10.25 ฟรังค์ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ไตรมาสแรกปี 2552 หลังจากบริษัทปรับลดคาดการณ์ผลประกอบการ และจากข่าวที่ว่านายกาย ดูโบส์ ซีอีโอของเทมานอส จะลาออกจากตำแหน่งด้วยเหตุผลส่วนตัว
หุ้นบีเอชพี บิลลิตัน ดิ่งลง 3.3% หลังจากเครดิตสวิสปรับลดน้ำหนักความน่าลงทุนของหุ้นบีเอชพี บิลลิตัน ลงมาอยู่ที่ระดับ neutral จากระดับ outperform
หุ้นเทเลคอม อิตาเลีย ร่วงลง 6.5% หลังจากบริษัทคาดว่าผลประกอบการในกลุ่มประเทศละตินอเมริกาจะลดลงในปีหน้า
อย่างไรก็ตาม หุ้นคาร์ฟูร์ พุ่งขึ้น 7% หลังจากบริษัทเปิดเผยว่ารายได้ไตรมาส 2 ปรับตัวลดลง 0.3% มาอยู่ที่ระดับ 21.6 พันล้านยูโร ซึ่งตัวเลขดังกล่าวน้อยกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้