- ประเด็นที่ทุกฝ่ายต่างลุ้นกันในวันศุกร์ที่ 13 ก.ค.นี้ คงหนีไม่พ้นตั้งตารอ เพื่อฟังคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญในคดีคำร้องเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 291 ว่าเข้าข่ายล้มล้างการปกครองหรือไม่ โดยช่วงเช้าคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ จะมีการประชุมอภิปราย แถลงด้วยวาจา และลงมติ ในประเด็นการวินิจฉัยคดีที่ คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ได้กำหนดไว้ 4 ประเด็น จากนั้นจะมีการยกร่างคำวินิจฉัยกลางเพื่อนำมาอ่านให้คู่กรณีฟังในเวลา 14.00 น.
งานนี้ทั้งนักวิชาการ นักการเมือง และนักธุรกิจต่างเก็งคำตัดสินของศาลว่าจะออกมาได้ 3 ทาง ทางแรกแบบเบาสุดคือยกคำร้อง ทางที่สองแบบกลางๆ คือให้กลับไปแก้ไขใหม่เป็นรายมาตรา และทางที่สามแบบหนักสุด คือเข้าข่ายล้มล้างการปกครองและมีโทษถึงยุบพรรคเพื่อไทย และชาติไทยพัฒนา ในฐานะที่เป็นพรรคร่วมรัฐบาล ต้องจับตาดูว่าคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญบ่ายวันนี้ จะเพิ่มอุณหภูมิการเมืองในประเทศให้ร้อนระอุขึ้นหรือไม่
ส่วนการรักษาความปลอดภัยให้แก่คณะตุลาการรัฐธรรมนูญนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจมีการอารักขาความปลอดภัยให้ตั้งแต่การเดินทางออกจากบ้านมายังศาลรัฐธรรมนูญ รวมทั้งจากศาลรัฐธรรมนูญกลับไปยังบ้านพักของตุลาการแต่ละคน นอกจากนี้ยังมีแผนสำรองหากเกิดเหตุฉุกเฉินด้วยการเตรียมเฮลิคอปเตอร์ไว้สำหรับรับ-ส่งตุลาการรัฐธรรมนูญด้วย ด้านบรรยากาศความเคลื่อนไหวโดยรอบศาลรัฐธรรมนูญวันนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้วางกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยไว้ทั้งหมด 13 กองร้อย โดยเชื่อว่าจะสามารถควบคุมการชุมนุมได้ โดยผู้ที่เดินทางมาชุมนุมวันนี้ เป็นกลุ่มให้กำลังใจศาลรัฐธรรมนูญ อาทิ กลุ่มคนเสื้อหลากสี กลุ่มกองทัพปลดแอกประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กลุ่มกองทัพธรรม
ขณะที่กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) หรือกลุ่มคนเสื้อแดง ยืนยันแล้วว่าจะไม่ไปชุมนุม แต่จะรอฟังผล โดยมีบางส่วนปักหลักชุมนุมบริเวณ ลานพระบรมรูปทรงม้า และที่ศูนย์บัญชาการที่ห้างอิมพีเรียล ลาดพร้าว และจะมีการกำหนดท่าทีทันทีหลังมีคำวินิจฉัยแล้ว
- ขณะที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ นายกรัฐมนตรี ในช่วงเช้ายังคงปฎิบัติภารกิจที่ทำเนียบรัฐบาล โดยการให้ Mr. Bruno Philip ผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์ Le Monde ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก เข้าสัมภาษณ์ จากนั้นจะเดินทางไปตรวจเยี่ยมศูนย์อำนวยการพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติดแห่งชาติ ณ สำนักงาน ป.ป.ส. เขตดินแดง กรุงเทพฯ
ก่อนจะออกเดินทางไปกัมพูชา ในเวลาเดียวกับที่ศาลรัฐธรรมนูญกำหนดอ่านคำวินิจฉัย เพื่อกล่าวปาฐกถาต่อนักธุรกิจสหรัฐฯ-อาเซียน ตามคำเชิญของ รมว.ต่างประเทศสหรัฐฯ พร้อมหารือทวิภาคีกับสมเด็จฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา และ และประธานาธิบดีเต็ง เส่ง ของพม่า ที่หลายฝ่ายต่างจับตาว่าจะมีการเจรจาเรื่องผลประโยชน์ด้านพลังงานระหว่างไทย-กัมพูชาหรือไม่ จากนั้นนายกฯ จะร่วมงานเลี้ยงรับรอง ณ โรงแรม Le Meridien เมืองเสียมราฐ และเดินทางกลับถึงประเทศไทยในเวลา 23.00 น.
- ขณะที่สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน นัดแถลงข่าวเช้านี้ถึงผลการวินิจฉัยเรื่องร้องเรียนตามคำร้องเรียนที่มีผู้ร้องเรียน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีไว้ 2 กรณี คือ 1.กรณีไม่เข้าร่วมประชุมสภาผู้แทนราษฎรโดยไปทำธุระส่วนตัว(โรงแรมโฟร์ซีซั่นส์) ซึ่งเป็นการกระทำที่อาจฝ่าฝืนหรือไม่เป็นไปตามประมวลจริยธรรมของข้าราชการการเมือง พ.ศ.2551 และ (2) กรณีปฏิบัติผิดมาตรฐานทางจริยธรรมของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง กรณีผลประโยชน์ทับซ้อนในโครงการบ้านหลังแรก
- หันมาดูประเด็นด้านเศรษฐกิจบ้าง นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง จะเป็นประธานเปิดการประชุมสุดยอดผู้นำธุรกิจในภูมิภาคเอเชีย 3rd Asian Business Summit ที่โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ แอท เซ็นทรัลเวิลด์ มีผู้นำภาคธุรกิจจาก 13 ประเทศเข้าร่วม ซึ่งปีนี้พม่าจะเข้าร่วมประชุมเป็นครั้งแรกเพื่อวางแนวทางในการทำงานร่วมกันและหารือประเด็นต่างๆ ก่อนนำข้อสรุปเข้าหารือในที่ประชุมความร่วมมือทางเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก(APEC) ต่อไป
- นายไกรฤทธิ์ นิลคูหา อธิบดีกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน(พพ.) จะแถลงภาพรวมการใช้จ่ายคูปอง 2,000 บาทช่วยน้ำท่วม ซึ่งล่าสุดทางสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินได้สั่งระงับการจ่ายเงินคืนให้กับร้านค้าที่เข้าร่วมรายการหลังพบว่ามีการใช้เงินผิดวัตถุประสงค์
- ThaiPublica Forum จัดสัมมนาหัวข้อ "15 ปี วิกฤติ 2540 ประเทศไทยอยู่ตรงไหน" ที่อาคารสมัชชาวาณิช 2
- ช่วงบ่ายนี้ ธนาคารกสิกรไทย(KBANK) จัดสัมมนาเรื่อง "ปฏิรูปกฎหมายเศรษฐกิจจีน จุดเปลี่ยนการค้าการลงทุนในแดนมังกร" งานนี้ได้รับเกียรติจาก ศาสตราจารย์ จางโส่วเหวิน คณบดีคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยปักกิ่ง ตลอดจนผู้เชี่ยวชาญการเงินและหลักทรัพย์ของจีนมร่วมเป็นผู้บรรยายด้วย งานนี้จัดที่ธนาคารกสิกรไทย สำนักงานใหญ่ราษฎร์บูรณะ
- คณะกรรมการจัดงานประชุมยางเอเซียแปซิฟิก อีลาสโตเมอร์ไซส์ แอนด์ เทคโนโลยี (Asia Pacific Elastomer Science and Technology-APEST) จัดงานประชุมและนิทรรศการยางเอเซียแปซิฟิก (APEST Conference and Exhibition 2012) ครั้งที่ 3 ขึ้น ภายใต้แนวความคิด “การยกระดับความยั่งยืนในอุตสาหกรรมยาง” โดยมีผู้เชี่ยวชาญทั้งไทยและต่างประเทศ มาเป็นผู้บรรยายและให้คำปรึกษาแก้ปัญหา จำนวน 20 ราย นอกจากนี้ ยังมีหน่วยงานการประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการค้าและการพัฒนา (อังค์ถัด) ซึ่งเป็นองค์กรสำคัญสนับสนุนการสร้างกรอบการผลิตยางธรรมชาติอย่างยั่งยืน จะมีส่วนร่วมสำคัญในการประชุมยางเอเชียแปซิฟิค 2555 ครั้งนี้ด้วย ซึ่งจะมีผู้เข้าร่วมงานครั้งนี้จากทั่วโลกประมาณ 200 คน โดยกำหนดจัดขึ้นในวันที่ 11-13 ก.ค. 55 ณ โรงแรม ดิ อิมพีเรียล ควีนส์ปาร์ค กรุงเทพฯ
- วานนี้หลังจากฝนตกหนัก ทำเอาน้ำท่วมขังถนนหลายสาย ทำให้ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร สั่งเขตฯ จัดชุดเฉพาะเฝ้าพื้นที่จุดอ่อนน้ำท่วมทันทีหากมีฝนตก แถมด้วยชุดเฉพาะกิจตรวจซ้ำการขุดลอกท่อ