นายชาคริต ทีปกรสุขเกษม กรรมการผู้จัดการ บมจ.ผลิตภัณฑ์คอนกรีตชลบุรี(CCP) คาดว่า รายได้ไตรมาส 2/55 เติบโต 20% จากไตรมาส 2/54 และเติบโตจากไตรมาส 1/55 ตามความต้องการใช้คอนกรีตที่สูงขึ้น หลังจากโครงการก่อสร้างในภาคต่างๆ ขยายตัว โดยคาดว่าตลาดรวมคอนกรีตในปีนี้จะมีความต้องการใช้เติบโต 6-7% จากปีที่ผ่านมามีปริมาณใช้รวมประมาณ 23 ล้าน ลบ.ม.
แนวโน้มรายได้ครึ่งปีแรกจะมีการเติบโต 10-15% จากปีที่ผ่านมาที่มีรายได้รวมทั้งสิ้น 1,105.76 ล้านบาท ขณะที่ช่วงครึ่งปีหลัง บริษัทจะมีการรับรู้รายได้จากการขายที่ดิน 80 ล้านบาท ขณะที่บริษัทยังอยู่ระหว่างการรอผลการประมูลงานเกี่ยวเนื่องกับโครงการรถไฟฟ้า 2 เส้นทาง โดยแต่ละเส้นทางจะมีมูลค่างานที่บริษัทเข้าประมูลราว 600-800 ล้านบาท
ปัจจุบัน บริษัทมีมูลค่างานในมือ(Backlog)อยู่ที่ 2.3 พันล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นโครงการของภาครัฐ คาดว่าในช่วงปลายปีนี้จนถึงต้นปี 56 มูลค่างานในมือของบริษัทจะมีโอกาสเติบโตขึ้นอีกจากการเปิดประมูลโครงการเมกะโปรเจ็คต์ของภาครัฐที่คาดว่าจะเกิดขึ้น ซึ่งปีนี้บริษัทได้ปรับสัดส่วนงานเอกชนเพิ่มขึ้นเป็น 50% จากปีก่อนอยู่ในระดับ 30% คาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นในปีนี้จะสูงขึ้นมาที่ 14-15% จากปีก่อนที่อยู่ระดับ 11-12%
ส่วนแนวทางการการล้างขาดทุนสะสมจำนวนกว่า 200 ล้านบาทนั้น นายชาคริต คาดว่า จะสามารถล้างขาดทุนได้หมดภายใน 2 ปีข้างหน้า หลังจากนั้นจะพิจารณาจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้นหากมีกำไร พร้อมกันนั้นบริษัทได้ตั้งเป้าหมายลดอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E)ของบริษัทจาก 5 เท่า ให้ก้ลดลงเหลือ 1-2 เท่า
"การจ่ายปันผลคงต้องรอให้ขาดทุนสะสมหมดและมีกำไรก่อน ซึ่งยอดขาดทุนสะสมงบรวมอยู่ที่ 200 ล้านบาท งบเดี่ยวของบริษัทแม่ยอดเมื่อสิ้นปีอยู่ที่ 140 ล้านบาท แต่ ณ สิ้นไตรมาส 1/55 ยอดต่ำกว่า 100 ล้านบาทแล้ว คาดว่าจะล้างหมดภายใน 2 ปี"นายชาคริต กล่าว
นายชาคริต กล่าวว่า บริษัทยังอยู่ระหว่างศึกษาการขยายการลงทุนในต่างประเทศทั้งในด้านกฎหมายที่เกี่ยวข้องและภาษี ทั้งนี้มองว่าการเกิดประชาเศรษฐกิจอาเซียน(AEC)จะช่วยทำให้ธุรกิจก่อสร้างไทยได้เปรียบ อย่างไรก็ตาม ปัจจุบัน บริษัทมีโรงงานที่มัลดีฟส์ ซึ่งมีผลประกอบการที่ดีโดยมีรายได้สัดส่วน 3% ต่อเดือนของรายได้รวมอยู่แล้ว
สำหรับแผนการนำ บริษัท สมาร์ทคอนกรีต จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อย เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์นั้น นายชาคริต กล่าวว่า กำลังรอจังหวะเวลาที่เหมาะสม โดยขณะนี้ยังไม่ระบุจะเข้าตลาดหลักทรัพย์ SET หรือ ตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ แต่ได้มอบหมายให้ บริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด (APM) เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน โดยผลประกอบการของสมาร์ทคอนกรีตดีกว่าบริษัทแม่ รายได้ปีนี้คาดว่าเติบโต 10-20% จากปีก่อนที่มียอดขาย 360 ล้านบาท กำไรสุทธิกว่า 10 ล้านบาท