ภาวะตลาดหุ้นไทยปิดเช้าบวก 8.29 จุด หลังการเมืองนิ่ง-เก็งงบ Q2/55, ระวังแรงขายภาคบ่าย

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday July 16, 2012 12:54 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ตลาดหลักทรัพย์ปิดตลาดช่วงเช้าวันนี้ที่ระดับ 1,218.58 จุด เพิ่มขึ้น 8.29 จุด(+0.68%)มูลค่าการซื้อขาย 12,169.77 ล้านบาท

การซื้อขายหุ้นช่วงเช้าวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยแกว่งตัวในแดนลบตลอดช่วงเช้า โดยแตะจุดสูงสุดของช่วงเช้าที่ 1,205.85 จุด และแตะจุดต่ำสุดของช่วงเช้าที่ระดับ 1,197.12 จุด

น.ส.ธีรดา ชาญยิ่งยงค์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป(ประเทศไทย)กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ผันผวนในแดนบวก โดยดัชนีฯยังสามารถปรับตัวขึ้นต่อได้ หลังความเสี่ยงเรื่องการเมืองในระยะสั้นคลี่คลายลง แต่ก็ต้องรอติดตามรายละเอียดเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญของรัฐบาลในระยะต่อไป ว่าตกลงแล้วจะต้องมีการลงประชามติหรือไม่หากรัฐบาลยืนยันที่จะมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ รวมทั้งรัฐบาลจะยังคงเดินหน้าเรื่องพ.ร.บ.ปรองดองต่อหรือไม่ ซึ่งคงมีความชัดเจนในการเปิดประชุมสมัยหน้าในเดือนส.ค.

ทั้งนี้ ตลาดฯยังได้รับปัจจัยบวกจากตลาดหุ้นต่างประเทศที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นแรง โดยเฉพาะดัชนีหุ้นดาวโจนส์เมื่อวันศุกร์ปรับตัวขึ้นไปกว่า 200 จุด ประกอบกับ นักลงทุนยังคงเข้ามาเล่นเก็งกำไรผลประกอบการไตรมาส 2/55 อย่างต่อเนื่องในระหว่างรอปัจจัยใหม่ๆ เข้ามาขับเคลื่อน

แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ น.ส.ธีรดา กล่าวว่า ตลาดฯคง ผันผวนในกรอบ sideway ถึง sideway up และต้องระมัดระวังแรงขายทำกำไรหลังดัชนีฯปรับขึ้นแรงมาตั้งแต่วันศุกร์ที่ผ่านมา พร้อมให้แนวรับ 1210 จุด แนวต้าน 1220 จุด

ด้านนายปริญทร์ กิจจาทรพิทักษ์ ผู้บริหารสายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์และกลยุทธ์การลงทุน บล.เคทีบี (ประเทศไทย)กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ยังได้รับแรงกระตุ้นทางบวกต่อเนื่องจากวันศุกร์ในประเด็นผลการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ประกอบกับเช้านี้ตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียก็ปรับตัวขึ้นมาเป็นส่วนใหญ่ ยกเว้นจีนและเกาหลี ที่ปรับตัวลงเล็กน้อย ขณะที่ราคาน้ำมันดิบในตลาดฯโลกก็เพิ่มสูงขึ้น

“ตลาดหุ้นไทยปรับขึ้นต่อในวันนี้ได้อีก แต่คงไม่แรงเท่าวันศุกร์ ยกเว้นถ้านักลงทุนต่างชาติพลิกกับมาซื้อสุทธิ เพราะศุกร์ที่ผ่านมาถือเป็นกลุ่มเดียวที่ขายสุทธิในตลาดหุ้นไทย พร้อมให้กรอบการแกว่งที่ 1,205-1,220 จุด แต่หากนักลงทุนต่างชาติพลิกกลับมาซื้อสุทธิ อาจจะทะลุกรอบ 1,220 จุดไปชนที่ 1,225 จุดได้"นายปริญทร์ กล่าว

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่

DTAC มูลค่าการซื้อขาย 876.13 ล้านบาท ปิดที่ 83.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท

KBANK มูลค่าการซื้อขาย 862.45 ล้านบาท ปิดที่ 166.50 บาท เพิ่มขึ้น 2.50 บาท

JAS มูลค่าการซื้อขาย 820.26 ล้านบาท ปิดที่ 3.34 บาท เพิ่มขึ้น 0.06 บาท

BBL มูลค่าการซื้อขาย 456.98 ล้านบาท ปิดที่ 198.50 บาท เพิ่มขึ้น 2.50 บาท

IRC มูลค่าการซื้อขาย 448.58 ล้านบาท ปิดที่ 14.50 บาท ลดลง 0.20 บาท


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ