นายสมภพ กีระสุนทรพงษ์ กรรมการผู้อำนวยการ บล. ฟินันเซีย ไซรัส ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินของบมจ. ทีวี ไดเร็ค(TVD) ผู้นำในธุรกิจจำหน่ายสินค้าและบริการผ่านช่องทางการตลาดที่หลากหลาย เปิดเผยว่า หลังจากที่ได้ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูล (ไฟลิ่ง) ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อเสนอขายหุ้น บมจ.ทีวี ไดเร็ค ให้แก่ประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 57.92 ล้านหุ้นนั้น ขณะนี้สำนักงาน ก.ล.ต. ได้นับหนึ่งไฟลิ่งแล้ว ซึ่งคาดว่าจะสามารถนำหุ้น TVD เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ ได้ภายในไตรมาสที่ 3 ของปีนี้
ด้าน นายทรงพล ชัญมาตรกิจ ประธานกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร TVD กล่าวว่า นอกจากตลาดในประเทศไทยแล้ว เรายังมองเห็นโอกาสในการขยายธุรกิจการตลาดแบบตรงไปยังตลาดต่างประเทศในแถบอินโดไชน่าและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยในช่วงต้นปี 2554 ที่ผ่านมา เราได้เข้าถือหุ้นในบริษัท ทีวีไดเร็ค อินโดไชน่า จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทประกอบธุรกิจลงทุน (Holding) ในสัดส่วน 99.99% และ ณ วันที่ 31 มีนาคม 2555 บริษัท ทีวีไดเร็ค อินโดไชน่า จำกัด มีเงินลงทุนในบริษัทย่อย 3 แห่ง ประกอบด้วย Direct Response Television Co., Ltd.ซึ่งอยู่ในประเทศกัมพูชาในสัดส่วน 100% TV Direct Lao Co.,Ltd.ซึ่งตั้งอยู่ในประเทศลาว ในสัดส่วน 95% และ TV Direct (Malaysia) Sdn. Bhd. ซึ่งตั้งอยู่ในประเทศมาเลเซีย ในสัดส่วน 65% โดยบริษัทย่อยดังกล่าวประกอบธุรกิจการตลาดแบบตรง
นายทรงพล กล่าวว่า หลังจากนี้ TVDมีเป้าหมายที่จะเป็นผู้นำในธุรกิจการจำหน่ายสินค้าและบริการผ่านช่องทางการตลาดที่หลากหลาย รวมถึงมีเป้าหมายที่จะขยายธุรกิจการตลาดแบบตรงไปในประเทศต่างๆ ได้แก่ เวียดนาม สิงคโปร์ อินโดนีเซียพม่า ฟิลิปปินส์ และบรูไน ขณะเดียวกัน ยังจะเดินหน้าขยายการประกอบธุรกิจขายปลีกผ่านร้านค้าปลีก TV Direct Showcase ทั้งในประเทศไทย รวมถึงใน เวียดนาม สิงคโปร์ และอินโดนีเซีย
ในส่วนของผลประกอบการของบริษัทฯ ก็สะท้อนให้เห็นถึงการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยบริษัทและบริษัทย่อย มีรายได้รวม เพิ่มขึ้นจาก 959.30 ล้านบาท ในปี 2552 เป็น 1,430.67 ล้านบาท ในปี 2553 และเพิ่มเป็น 1,905.99 ล้านบาท ในปี 2554 คิดเป็นอัตราการเติบโตร้อยละ 49 และร้อยละ 33 ตามลำดับ โดยมีกำไรสุทธิ 0.30 ล้านบาท, 34.88 ล้านบาท และ 35.44 ล้านบาท ตามลำดับ
บมจ.ทีวี ไดเร็ค มีทุนจดทะเบียนทั้งสิ้น 188 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญจำนวน 376 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท และมีทุนที่ออกและเรียกชำระแล้วจำนวน 159.04 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญจำนวน 318.08 ล้านหุ้น โดยบริษัทฯ จะเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชน (IPO) จำนวน 57.92 ล้านหุ้น คิดเป็นร้อยละ 15.40 ของทุนชำระแล้วภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนในครั้งนี้ แบ่งเป็นการเสนอขายให้แก่ประชาชนจำนวน 52 ล้านหุ้น และเสนอขายให้แก่กรรมการและพนักงานของบริษัทฯ และบริษัทย่อยจำนวน 5.92 ล้านหุ้น โดยบริษัทฯ จะนำเงินที่ได้จากการระดมทุนครั้งนี้ไปใช้ลงทุนในบริษัทย่อย และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนของบริษัทฯ