(เพิ่มเติม) CGS มั่นใจปี 55 กำไรโตไม่ต่ำกว่าปีก่อน-มาร์เก็ตแชร์ตามเป้าที่ 6%

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday July 16, 2012 15:17 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บล.คันทรี่ กรุ๊ป(CGS) คาดว่า กำไรสุทธิในปี 55 จะไม่น้อยว่าปี 54 หลังกำไรในช่วงครึ่งปีแรกเป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ ขณะที่มาร์เก็ตแชร์ในธุรกิจนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ปีนี้คงทำได้ตามเป้าหมายที่ 6% หลังครึ่งปีแรกอยู่ที่ระดับ 5.43% เป็น 1 ใน 5 อันดับแรก ขณะที่อัตราค่าธรรมเนียมในการซื้อขายหลักทรัพย์ของบริษัทปัจจุบันอยู่ที่ระดับ 0.15% ซึ่งถือว่าเป็นระดับที่น่าพอใจ ทั้งนี้ ในช่วงครึ่งปีแรกพอร์ต Prop Trade สามารถสร้างผลตอบแทนเกินเป้าที่ 30% ไปแล้ว

นายประสิทธิ์ ศรีสุวรรณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ CGS) มั่นใจผลดำเนินงานในปีนี้บริษัทจะมีกำไรเติบโตต่อเนื่องไม่ต่ำกว่าปี 54 โดยในช่วงครึ่งปีแรกกำไรของบริษัทเป็นไปตามเป้าหมายแล้ว

นอกจากนั้น บริษัทยังมั่นใจว่าจะทำตามเป้าหมายส่วนแบ่งการตลาด(มาร์เก็ตแชร์)ธูรกิจหลักทรัพย์ในปีนี้ที่ 6% สูงขึ้นจากปีก่อนที่อยู่ในระดับ 5% โดยครึ่งแรกสูงขึ้นมาเป็น 5.43% แล้ว บางวันก็ทำได้มากกว่า 6% ทำให้บริษัทขยับขึ้นมาเป็นโบรกเกอร์ที่มีมาร์เก็ตแชร์สูงสุด 5 อันดับต่อเนื่องจากปีก่อน ภายใต้วอลุ่มการซื้อขายเฉลี่ย 2.6-2.8 หมื่นล้านบาท/วัน

อีกทั้งบริษัทมีเป้าหมายการเพิ่มบัญชีลูกค้าอีก 20% จากปัจจุบันที่ 55,000 บัญชี และปีนี้บริษัทได้เปิดสาขาใหม่ คือ ปาร์คเวนเจอร์ ทำให้ปัจจุบันมีสาขาทั้งหมด 50 สาขาทั่วประเทศ

ด้านการลงทุนของบริษัทนั้น ในปีนี้บริษัทวงเงินลงทุนในพอร์ตบริษัท (Prop. Trade) ราว 125 ล้านบาท โดยครึ่งปีแรกผลตอบแทนการลงทุนเกิน 30% ต่อปีตามที่ตั้งเป้าหมายไว้แล้ว ทำให้กำไรในส่วนพร็อพเทรดครึ่งแรกเติบโตเกินเป้าหมายไปแล้ว ตรงนี้ก็จะเป็นผลตอบแทนส่วนเพิ่มให้กับผู้ถือหุ้น

ส่วนการเปิดเสรีค่าธรรมเนียมการซื้อขาย(คอมมิชชั่น) เป็นปีแรกส่งผลให้ค่าคอมฯเฉลี่ยของทั้งระบบลดลงมาอยู่ที่ 0.16-0.18% ซึ่งในส่วนของรายได้ค่าคอมฯของบริษัทโดยมีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 0.15% แต่ในส่วนของปริมาณซื้อขายถือว่าเพิ่มขึ้นทั้งหลักทรัพย์และอนุพันธ์

สำหรับตลาดหุ้นครึ่งปีหลัง นายประสิทธิ์ มองว่า สถานการณ์ยังน่าจะผันผวน โดยมองหมายเป้าดัชนี SET ในปีนี้ที่ 1,250 จุด ภายใต้สถานการณ์ยุโรปไม่รุนแรง หรือหากปรับลงก็ไม่น่าจะต่ำกว่า 1,100 จุด แต่ถ้าผลประกอบการกลุ่มพลังงานออกมาดี ดัชนีฯ คงมีโอกาสที่จะไปต่อถึง 1,400 จุด โดยหวังว่ากลุ่มพลังงานจะสามารถพลิกดัชนีขึ้นมาได้


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ