บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส(ประเทศไทย)ระบุในบทวิเคราะห์ฯว่า บมจ.ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม(PTTEP) อาจมีการเพิ่มทุนใน 2H55 เพราะบริษัทต้องเตรียมเม็ดเงินไว้สำหรับการเข้าซื้อ Cove Energy (ประมาณ 2.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) ซึ่งจะทำให้สัดส่วนหนี้สินสุทธิต่อทุนของบริษัทเพิ่มเป็น 0.7 เท่าจากปัจจุบันที่ 0.3 เท่า(สูงเกินระดับที่บริษัทตั้งไว้)
ขณะที่กำไรจากการเข้าซื้อยังไม่เข้ามาจนกว่าจะถึงปี 61 จึงคาดว่า PTTEP จะเพิ่มทุนเพื่อรักษาระดับอันดับความน่าเชื่อถือของ S&P ที่ BBB+ และ Moody's ที่ BAA1 เอาไว้ จึงยังคงแนะนำ"ถือ"โดยให้ราคาพื้นฐาน 172 บาท
ล่าสุด บริษัท รอยัล ดัทช์ เชลล์ ซึ่งเป็นผู้ผลิตพลังงานรายใหญ่สุดของยุโรปได้ถอนตัวออกจากการแข่งขันเทคโอเวอร์กิจการบริษัท Cove Energy แล้ว ซึ่งทำให้ PTTEP กลายเป็นผู้เทคโอเวอร์กิจการของ Cove Energy ในที่สุดหากไม่มีผู้เสนอซื้อรายใหม่เข้ามาจนถึงวันที่ 31 ก.ค.55 ซึ่งเป็น deadline สำหรับผู้เสนอซื้อรายใหม่ ซึ่งทาง PTTEP จะขยายระยะเวลาในการรับซื้อหุ้น Cove ไปถึงวันที่ 25 ก.ค.55 เพื่อให้มีสัดส่วนการถือหุ้น Cove Energy ไม่ต่ำกว่าขั้นต่ำที่กำหนดไว้ คือ 90%
แม้ว่า Rovuma Area 1 block จะถูกประเมินว่ามี gas resources ระหว่าง 30-60 Tcf แต่จากข้อมูลของ Anadarko ซึ่งเป็นผู้ประกอบการ Rovuma Area 1 คาดว่าจะสามารถเพิ่มขึ้นเป็น 100 Tcf ถ้าหากให้ความสำเร็จในการเปลี่ยน resources เป็น reserves เท่ากับ 30% พบว่าปริมาณ reserves ของ PTTEP จะเพิ่มขึ้นอีก 28%
วานนี้(16 ก.ค.)หุ้น PTTEP ปิดที่ 173 บาท เพิ่มขึ้น 0.50(+0.29%)