กลุ่มชิ้นส่วนยานยนต์ขึ้นยกแผงหลังคลังเสนอยืดส่งรถคันแรกเข้าครม.วันนี้

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday July 17, 2012 10:07 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

กลุ่มชิ้นส่วนยานยนต์ราคาขยับขึ้นยกแผง โดยเมื่อเวลา 10.02 น.หุ้น AH อยู่ที่ 15.30 บาท เพิ่มขึ้น 0.20 บาท(+1.32%) มูลค่าซื้อขาย 7.74 ล้านบาท

หุ้น SAT อยู่ที่ 28.75 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท(+1.77%)มูลค่าซื้อขาย 3.57 ล้านบาท

หุ้น STANLY อยู่ที่ 200.00 บาท เพิ่มขึ้น 3.00 บาท(+1.52%)มูลค่าซื้อขาย 1.56 ล้านบาท

บล.ทรีนีตี้ ระบุในบทวิเคราะห์ฯว่า โดยกระทรวงการคลังได้นำเรื่องขยายเวลาส่งมอบรถตามโครงการรถคันแรกของรัฐบาลให้คณะรัฐมนตรี(ครม.) พิจารณาในการประชุมวันที่ 17 ก.ค.นี้ เงื่อนไขของโครงการยังเหมือนเดิมคือการซื้อรถต้องเกิดขึ้นภายในสิ้นปี 2555 แต่ยืดเวลาการส่งมอบรถออกไปอีก 3 หรือ 6 เดือน แล้วแต่ ครม. เนื่องจากกระบวนการผลิตได้รับผลกระทบจากมหาอุทกภัยเมื่อปลายปี 2554 ที่ผ่านมา

นโยบายรถยนต์คันแรกเป็นปัจจัยหนึ่งที่ช่วยกระตุ้นตลาดรถยนต์ในปีนี้ โดยอุตสาหกรรมรถยนต์ในปีนี้มีแนวโน้มจะเติบโตสูง ทั้งยอดขายในประเทศ และยอดผลิตรถยนต์ หุ้นที่ศึกษาและแนะนำ "ซื้อ" คือ บมจ.อาปิโก ไฮเทค(AH), บมจ.สมบูรณ์ แอ๊ดวานซ์ เทคโนโลยี(SAT), บมจ.ไทยสแตนเลย์การไฟฟ้า(STANLY)

ด้านบล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง(ประเทศไทย)แนะ"ซื้อเก็งกำไร"หุ้น AH ราคาเหมาะสม 18.70 บาท คาดว่าผลประกอบการปี 2555 จะ Turnaround พลิกเป็นกำไร 385 ล้านบาท จากขาดทุน 61 ล้านบาทในปี 2554 นอกจากนั้น ราคาหุ้นยังซื้อขายต่ำกว่ามูลค่าทางบัญชี โดยมี PBV 2555 เพียง 0.8 เท่า เทียบกับ SAT - STANLY ที่ 1.6 และ 7.7 เท่า ตามลำดับ

นอกจากนี้ ราคาหุ้นกลุ่มชิ้นส่วนยานยนต์มีปัจจัยบวกรออยู่ในสัปดาห์นี้ ได้แก่ กระทรวงการคลังจะนำเสนอการขยายเวลาส่งมอบรถตามโครงการรถคันแรกเข้าครม.ในวันนี้ โดยคาดว่าจะยืดเวลาออกไปอีก 3 หรือ 6 เดือน จากเดิมที่จะสิ้นสุดโครงการในสิ้นปี 2555และตัวเลขการผลิตรถยนต์เดือน มิ.ย. ที่จะประกาศภายในวันที่ 20 ก.ค. คาดว่าจะขยายตัวทั้ง mom และ yoy และส่งผลให้ยอดผลิตรถยนต์รวมใน 2Q55 ขยายตัวทั้ง yoy และ qoq พร้อมทั้งทำระดับสูงสุดใหม่ได้อีกครั้ง

ขณะที่กำไรสุทธิ 2Q55 ของ AH คาดว่าจะขยายตัวทั้ง yoy และ qoq สูงที่สุดในกลุ่มชิ้นส่วนยานยนต์ เนื่องจากจะเป็นไตรมาสแรกที่โรงงานในนิคมฯไฮเทค กลับมาผลิตเต็มกำลังอีกครั้ง หลังได้รับผลกระทบจากภาวะน้ำท่วมใน 4Q54 ที่ผ่านมา

อีกทั้งยังมีมุมองเชิงบวกในระยะยาวต่อการขยายตัวของรถยนต์ขนาดเล็ก หรือ Eco Car ซึ่งจะส่งผลบวกโดยตรงต่อ AH เนื่องจากเป็นผู้ผลิตชิ้นส่วนหลักให้แก่ Mazda, Nissan และ Ford โดยคิดเป็นสัดส่วนสูงถึง 40% ของรายได้รวม


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ