นายเคียวอิจิ ทานาดะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย ปรับคาดการณ์ตลาดรถยนต์ในประเทศไทยปีนี้เป็น 1.2 ล้านคัน หรือเติบโต 51% จากปีก่อน หลังจากช่วงครึ่งปีแรกเติบโตถึง 40.4% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน มาที่ 606,523 คัน โดยเฉพาะเดือน มิ.ย.55 อยู่ที่ 123,471 คัน เติบโตสูงถึง 75.7% จาก มิ.ย.54 โดยโตโยต้ามีปริมาณการขาย 45,346 คัน เพิ่มขึ้น 78.9% และมีส่วนแบ่งการตลาด 36.7%
ทั้งนี้ ตลาดรวมรถยนต์ในประเทศปี 55 คาดว่าจะแบ่งเป็นตลาดรถยนต์นั่ง 553,900 คัน และรถเพื่อการพาณิชย์ 646,100 คัน
นายทานาดะ กล่าวต่อว่า ตลาดรถยนต์ในครึ่งปีแรกนี้ได้สร้างสถิติใหม่ ด้วยยอดขายสูงสุดของสถิติยอดขายครึ่งปีแรกของตลาดรถยนต์ในประเทศไทย ด้วยยอดขายที่ 606,523 คัน อัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น 40.4% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา สำหรับความต้องการของตลาดรถยนต์ในประเทศที่เพิ่มขึ้นมาก ส่วนหนึ่งเป็นผลจากนโยบายสนับสนุนของภาครัฐ ประกอบกับกำลังการผลิตที่กลับเข้าสู่ภาวะปกติและเริ่มเพิ่มขึ้น
นายวิเชียร เอมประเสริฐสุข รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย กล่าวเสริมว่า ปีนี้ถือเป็นปีพิเศษทั้งจากนโยบายรถยนต์คันแรก และน้ำท่วมเมื่อปลายปี 54 ทำให้ยอดขายยอดผลิตในช่วงนั้นตกลงไปมาก แต่ขณะนี้ทุกอย่างเริ่มฟื้นตัวเลยทำให้ปีนี้ค่อนข้างพิเศษ ส่วนปีหน้าจะเติบโตอย่างปีนี้หรือไม่ต้องรอดูว่ารัฐบาลจะมีการต่ออายุมาตรการรถยนต์คันแรกหรือไม่
"ปีนี้ค่อนข้างพิเศษ เป้าทั้งตลาด 1.2 ล้านคันก็ได้อานิสสงส์จากนโยบายรัฐคิดเป็นประมาณ 50% ส่วนปีหน้าถ้าไม่มีต่ออายุมาตรการ ให้รับจองรถยนต์คันแรกแค่ภายในปีนี้ ปีหน้าตลาดอาจจะไม่สูงกว่าปีนี้ คาดว่าตลาดรวมปี 56 น่าจะเติบโตประมาณ 10 กว่าเปอร์เซ็นต์"นายวิเชียร กล่าว
ด้านยอดค้างส่งมอบ(Back Order) ของโตโยต้า ณ สิ้นเดือนมิ.ย.55 อยู่ที่ประมาณ 3-4 เดือนโยเฉลี่ย ยกเว้นฟอร์จูนเนอร์ที่มียอดค้างส่งมอบอยู่ที่ 5-6 เดือน รวมทั้งวีออสและยาริสก็มียอดค้างส่งมอบค่อนข้างสูงจากการรับจองนโยบายรถยนต์คันแรก ทั้งนี้ ยืนยันว่า นโยบายรถยนต์คันแรกไม่ได้ส่งผลกระทบต่อแผผนการผลิตและจำหน่ายรถยนต์อีโคคาร์ของโตโยต้า ซึ่งอยู่ระหว่างการพัฒนาและยืนยันกำหนดเปิดตัวในปี 56
สำหรับโตโยต้าในปี 55 ตั้งเป้าหมายการขายไว้ในตลาดประเทศไทยที่ 480,000 คัน แบ่งเป็น รถยนต์นั่ง 182,100 คัน และรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ 297,900 คัน ในส่วนของการส่งออกครึ่งปีแรกนี้โตโยต้าส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปทั้งสิ้น 204,554 คัน เพิ่มขึ้น 50.3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา คิดเป็นมูลค่า 92,074 ล้านบาท และคาดว่าทั้งปี 55 โตโยต้าจะส่งออกรถยนต์สำเร็จรูป ประมาณ 405,000 คัน เพิ่มขึ้น 61% คิดเป็นมูลค่าการส่งออก 177,000 ล้านบาท
ส่วนวิกฤตยูโรโซนไม่กระทบต่อการดำเนินธุรกิจของโตโยต้าเพราะส่งออกไปยุโรปเพียง 3% ตลาดส่งออกหลักคือตะวันออกกลาง และเอเชีย