นายพนม ควรสถาพร กรรมการผู้จัดการ บมจ.เอเชีย กรีน เอนเนอจี(AGE) เปิดเผยว่า ยอดขายในปี 55 มีโอกาสต่ำกว่าเป้าหมายที่คาดว่าจะทำได้ราว 7 พันล้านบาท หรือเติบโต 40% จากปีก่อน เนื่องจากในช่วงครึ่งปีแรกราคาถ่านหินปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ยอดขายพลาดเป้าไปค่อนข้างมาก โดยราคาถ่านหินได้รับผลกระทบจากการชะลอตัวลงของเศรษฐกิจจีน ซึ่งปัจจุบันบริษัทมีลูกค้าในจีนกว่า 20 ราย ขณะที่ยอดขายในประเทศยังทรงตัว
"ราคาถ่านหินตั้งแต่ต้นปีอ่อนตัวลงมาเยอะ พอราคาลงความต้องการก็ต่ำลงด้วย เพราะคนซื้อเขาก็ยังไม่แน่ใจว่ามันจะลงไปถึงไหน แต่เราก็ยังคงเป้ายอดขายไว้ที่ 7 พันล้าน แต่ดูแล้วไม่น่าจะถึง เพราะ 2 ไตรมาสที่ผ่านมาก็ประมาณเท่าๆ กับช่วงเดียวกันของปีก่อน ก็ต้องมาเร่งในช่วงครึ่งปีหลัง"นายพนม กล่าวกับ"อินโฟเควสท์"
อย่างไรก็ตาม ยอดขายในปีนี้ยังเติบโตจากปีก่อนที่ทำได้ 5.2 พันล้านบาท แม้ว่าอัตราการเติบโตอาจจะไม่สูงเท่าที่เคยคาดไว้ เนื่องจากบริษัทเชื่อว่ายอดขายช่วงครึ่งปีหลังจะปรับตัวสูงขึ้นจากครึ่งปีแรก หลังประเมินว่าราคาถ่านหินผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว ประกอบกับ เหมืองถ่านหินในอินโดนีเซียกำลังประสบปัญหาน้ำท่วมในฤดูฝน และเดือนหน้าก็จะเข้าสู่ช่วงถือศีลอดตามหลักศาสนาอิสลาม น่าจะส่งผลให้ปริมาณผลผลิตถ่านหินของอินโดนีเซียลดลง ซึ่งจะทำให้ราคาถ่านหินน่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้น
ประกอบกับ บริษัทก็มีการเจรจาหาลูกค้าใหม่ๆ อย่างต่อเนื่องทั้งในและต่างประเทศ โดยหวังว่าภายในปีนี้น่าจะมีคำสั่งซื้อจากลูกค้าในประเทศใหม่อย่างอินเดียและญี่ปุ่นเข้ามา
นายพนม ยืนยันว่า บริษัทยังคงเดินหน้าเจรจาซื้อเหมืองถ่านหินแห่งใหม่ในประเทศอินโดนีเซีย และหวังว่าน่าได้ข้อสรุปภายในปีนี้อย่างน้อย 1 แห่ง เพราะถือเป็นโอกาสดีที่ราคาถ่านหินลดลงก็ทำให้ราคาเหมืองลดลงไปด้วย นอกจากนี้ บริษัทยังอยู่ระหว่างศึกษาซื้อเหมืองถ่านหินในแอฟริกาใต้ด้วย เนื่องจากเป็นถ่านหินที่มีคุณภาพสูงตรงกับความต้องการของลูกค้าในอินเดีย แต่คงรอให้มีคำสั่งซื้อจากอินเดียเข้ามาก่อน จึงค่อยตัดสินใจในเรื่องนี้
"เรื่องซื้อเหมืองในอินโดฯก็ยังดีลอยู่ ตอนนี้ราคาถ่านหินลดลงก็น่าจะทำให้ราคาเหมืองลดลงไปด้วย ก็เป็นโอกาสให้เราเลือกมากขึ้น ที่จริงแล้วเหมืองมีอยู่เยอะแต่เราก็ต้องเลือกที่ดีที่สุด ซื้อมาทำกำไรได้และสามารถผลิตได้เลย ก็ไม่ได้รีบอะไรเพราะถ้าเราซื้อก่อนหน้านี้ก็อาจจะซื้อแพงก็ได้ แต่ก็ยังหวังว่าปีนี้น่าจะสำเร็จ แต่ถ้าไม่ได้ก็ไม่เสียหายอะไร"นายพนม กล่าว